Responsive image

Thursday, 25 Apr 2024

หน้าแรก > SOCIETY - CSR / ภาพข่าว-กิจกรรมเพื่อสังคม


ร่วมน้อมรำลึกถึงพระผู้ทรงเป็นพลังแห่งแผ่นดิน วันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชาครั้งที่ 22

Mon 17/10/2565


จากนี้เราจะเดินไปอย่างไร ท่ามกลางวิกฤติรายล้อมรอบด้านทั้งในเรื่องของสภาวะแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจ การแย่งชิงอำนาจจากมหาอำนาจของโลก หากเราไม่หันกลับมา “หยุดคิด และตั้งสติ” เพื่อช่วยกันปฏิบัติตนร่วมมือแก้ไขเพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับตนเอง สังคม และประเทศชาติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิ เบศรมหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  

 

ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์  ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดรัชสมัยพระองค์มีพระราชกรณียกิจมากมาย เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของปวงชนชาวไทยที่ได้ประจักษ์แจ้งในพระราชกรณียกิจนานัปการที่พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกายเสด็จพระราชดำเนินไปทั่วประเทศ แม้ในถิ่นธุรกันดารห่างไกลก็มิทรงย่อท้อต่อความลำบาก เพื่อทรงขจัดปัดเป่าความทุกข์ยากของราษฎร เพื่อความอยู่ดีกินดีมีคุณภาพชีวิตที่ดี  มีโครงการในพระราชดำริเกิดขึ้นหลายพันโครงการ รวมทั้งแนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ได้ทรงพระราชทานให้พสกนิกรนำไปเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองและครอบครัวให้มีภูมิคุ้มกันที่มั่นคงในการดำเนินชีวิต

“ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ที่พระองค์ทรงวางรากฐานไว้ให้ประชาชนคนไทยเพื่อเป็นหลักคิดและแนวทางดำเนินชีวิตอันเป็นหนทางสู่การแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิดเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่  3 ขั้น จากสร้างภูมิคุ้มกัน การสร้างความร่วมมือ ต่อเนื่องไปจนถึงการพัฒนาเพื่อความเจริญรุ่งเรือง เป็นแนวคิดที่สามารถสร้างเศรษฐีอย่างยั่งยืน ด้วยการรู้จักนำมาใช้ด้วยความเข้าใจ เราสามารถที่จะพัฒนาตนเอง ชุมชน และประเทศชาติให้แข็งแกร่งสามารถแข่งขันได้ในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปยังจุดที่เราทุกคนไม่สามารถคาดเดาได้อีกต่อไป ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและควรต้องนำมาปฏิบัติในวิถีชีวิต

 

เดือนตุลาคม เป็นเดือนแห่งประวัติศาสตร์ ที่มีเหตุการณ์สำคัญหลายเรื่องเกิดขึ้น ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ขอเทิดพระเกียรติน้อมรำลึกถึงพระอัจฉริยภาพและความสามารถพระองค์ท่าน “ภูมิพล กำลังของแผ่นดิน”  พร้อมทั้งน้อมนำการเดินตามรอยพระราชา ในสิ่งที่พระองค์ท่านได้วางแนวทางไว้ ในการ “อนุรักษ์ ดิน น้ำ ลม ไฟ”    ด้วยการนำครูอาจารย์ ลงพื้นที่ทำกิจกรรมครั้งที่ 22 ณ ศูนย์ปฏิบัติการจัดการที่ดิน ชัยพัฒนา – แม่ฟ้าหลวง และโครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงคุณูปการ ของพระองค์ท่านที่ได้ทรงริเริ่มแก้ไขปัญหาการจัดการเรื่องน้ำและป่า อ่างเก็บน้ำแห่งแรกที่พระองค์ท่านทรงดำริสร้างขึ้นในปี พศ. 2505 เมื่อทรงเห็นความยากลำบากของชาวบ้านเขาเต่าที่ขาดแคลนน้ำจืดในการอุปโภคบริโภคและปัญหาน้ำทะเลหนุนท่วมพืชผักผลไม้ อีกทั้งการถอดบทเรียนความสำเร็จของโครงการในพระราชดำริ โมเดลความสำเร็จจากภูผา สู่มหานที การจัดการที่ดินจากภูผาแม่ฟ้าหลวง สู่ผืนแผ่นดินที่ราบ  การร่วมกิจกรรมการบวชป่า เพื่อการดูแลรักษาต้นไม้ให้คงความอุดมสมบูรณ์ของป่าธรรมชาติ รักษาป่าไม้ที่เป็นต้นน้ำลำธาร ลดการทำลายและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพิ่มต้นไม้สีเขียวดักจับคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก สร้างสำนึกให้ชุมชนในการดูแลรักษาธรรมชาติ  และช่วยกันสร้างสังคมสีเขียวให้โลก  

พร้อมร่วมกิจกรรม Workshop ถอดรหัสนวัตกรรมศาสตร์พระราชา เรียนรู้นวัตกรรมสื่อการสอนสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21 Interactive Board Game จากวิทยากร อาจารย์ อดุลย์ ดาราธรรม นายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย และเข้าร่วมฟังบรรยายจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ รศ. นพ. สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน)  ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี 

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมธรรมดีร่วมกัน ปันสุขสู่น้อง  ทำการส่งมอบอาคารสนามเด็กเล่น ห้องน้ำ อุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนบ้านทุ่งขาม จ.เพชรบุรี นับเป็นการสร้างสังคมแห่งการแบ่งปันในชุมชน

ซึ่งการเรียนรู้ทั้งหมดนี้ เป็นแนวทางที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ได้ทรงเล็งเห็นและวางแนวทางให้พสกนิกร   สิ่งที่พระองค์ทรงคิดและทรงกระทำมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์และทรงงานนั้น เป็นต้นแบบและสอดคล้องกับสิ่งที่โลกกำลังมุ่งให้ความสำคัญคือเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษที่มีกรอบของการพัฒนาในมิติของ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้มีความเชื่อมโยงกัน เป็นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน Sustainable Development Goals (SDGs) ซึ่งเป็นทิศทางการพัฒนาเพื่อให้บรรลุภายในปี 2030

 

นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เนื่องในวาระวันคล้ายวันสวรรคต ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  ในวันที่ 13 ตุลาคม ทิพยประกันภัยขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ได้ทรงเมตตาสร้างคุณูปการอันเป็นประโยชน์ต่อปวงชนชาวไทยเป็นล้นพ้น ท่านทรงเป็น “พ่อ” ของแผ่นดิน และเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกร ทิพยประกันภัยมีความเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์  พร้อมสนับสนุนให้ชุมชน สังคม ได้เกิดความเข้าใจและน้อมนำเอาในเรื่องปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระองค์ท่านมาใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างให้เกิดภูมิคุ้มกันและความยั่งยืนสร้างความแข็งแรงให้กับสังคมและประเทศชาติ”

ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี กล่าวว่า “จะมีใครที่สามารถทำโครงการเพื่อประโยชน์ต่อแผ่นดินได้ ถึง 4,800 กว่าโครงการ เหมือนในหลวงรัชกาลที่ ๙ ท่านทรงมีคุณูปการให้กับคนไทยและลูกหลานได้อยู่อย่างผาสุก พระราชกรณียกิจของท่านเป็นแบบอย่างให้เราได้เดินตามรอยพระราชา คนไทยทุกคนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์  พร้อมช่วยกันทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการดูแลรักษาโลกใบนี้ และปฏิบัติตนตามหลักคำสอน ทำความดีและประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม ตามครรลองที่พระองค์ท่าน “ทรงทำให้ดู” ตลอดมา พระองค์ยังคงอยู่ในใจของทุกชีวิตในผืนแผ่นดินไทยตราบนิจนิรันดร์”

 

ทั้งนี้ กิจกรรมทิพย สืบสาน รักษา ต่อยอดนวัตกรรมศาสตร์พระราชา ได้จัดกิจกรรมตามรอยพระราชาเพื่อสืบสานต่อยอดให้กับครูอาจารย์ได้ลงพื้นที่ในโครงการพระราชดำริมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้และลงมือทำ โดยมีความคาดหวังเพื่อการขยายผลไปยังกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ได้รับรู้และเข้าใจในสิ่งที่พระองค์ทรงทำ   และเนื่องในวาระพิเศษนี้จึงได้จัดพิธีน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 13 ตุลาคม ณ โครงการอ่างเก็บน้ำเขาเต่า อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

รศ. นพ. สุริยเดว ทรีปาตี  ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม กล่าวว่า “ศูนย์คุณธรรมขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร  พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างของคุณธรรม ที่ได้ทรงฝากไว้ให้คนรุ่นหลังได้ปฏิบัติเพื่อให้เป็นวิถีชีวิต ให้สามารถเริ่มได้จากตนเอง ในบริบทของคุณธรรม 5 ประการ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และกตัญญู ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่สามารถสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงพฤติกรรม เพื่อเป้าหมายคือประชาชนมีความสุขบนพื้นฐานของความพอเพียงและมีคุณธรรม

โครงการ ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา  จัดโดย ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักโครงการและจัดการความรู้ (OKMD)  มูลนิธิธรรมดี  กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย คุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ และบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา  ผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถอดรหัสพระอัจฉริยภาพของในหลวงรัชกาลที่ ๙  ในการทรงงานเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของพสกนิกรให้มีความสุขและมีความเป็นอยู่ที่ดี อีกทั้งยังเพื่อสนองตามพระปฐมบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “เราจะสืบสาน รักษา ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”


Tags : ทิพยประกันภัย วิชชุดา ไตรธรรม ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 22 น้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายเร่งรัดการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และได้สั่งการให้ธนาคารออมสินหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนลดภาระการผ่อนชำระหนี้ที่มีอยู่เดิม โดยเฉพาะผู้มีหนี้ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง ตลอดจนผู้ที่ประสบปัญหาสภาพคล่องอันเป็นผลกระทบจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐ และสอดรับกับบทบาทธนาคารเพื่อสังคม ธนาคารจึงพิจารณาออกมาตรการรีไฟแนนซ์ ภายใต้โครงการ “สินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม” รับรีไฟแนนซ์หนี้เดิม (ไม่ใช่การปล่อยสินเชื่อใหม่) เพื่อช่วยลดภาระแก่ลูกหนี้ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) ลูกหนี้บัตรเครดิต 2) ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ Personal Loan (P-Loan) 3) ลูกหนี้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance) 4) ลูกหนี้สินเชื่อบ้าน ซึ่งการเปิดให้รีไฟแนนซ์สินเชื่อด้วยหลักเกณฑ์ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมเงื่อนไขพิเศษอื่นครั้งนี้ ตั้งเป้าช่วยเหลือประชาชนลดภาระการชำระหนี้ ผ่อนสบายมากขึ้น หรือผู้ที่รีไฟแนนซ์แล้วแต่ประสงค์ผ่อนชำระเงินงวดเท่าเดิม ก็จะตัดเงินต้นมากขึ้นเพราะดอกเบี้ยลดลง ทำให้ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น โดยมีรายละเอียดหลักเกณฑ์ทั้ง 4 มาตรการ ดังนี้    1. Re-Card : รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้บัตรเครดิต ที่ต้องการกู้เงินเพื่อไปชำระหนี้บัตรเครดิตของสถาบันการเงิน หรือ Non-Bank อื่น โดยการรีไฟแนนซ์/รวมหนี้บัตรเครดิตมาผ่อนชำระกับธนาคารออมสินในรูปแบบเงินกู้ระยะยาว (Long Term Loan) ช่วยลดภาระดอกเบี้ยจากเดิม 16% ต่อปี ลงเหลือ 8.99% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น) วงเงินกู้ไม่เกิน    5 เท่าของรายได้รวม สูงสุดไม่เกินรายละ 500,000 บาท และไม่ต้องมีหลักประกัน ซึ่งการรีไฟแนนซ์จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ลูกหนี้ ยกตัวอย่างกรณีเป็นหนี้บัตรเครดิต 100,000 บาท ปัจจุบันต้องจ่ายดอกเบี้ย 16% ต่อปี และผ่อนชำระขั้นต่ำ 8% ซึ่งเท่ากับ 8,000 บาทต่อเดือน เมื่อรีไฟแนนซ์มาเป็นเงินกู้ระยะยาว ธนาคารให้ผ่อนชำระได้สูงสุดไม่เกิน 7 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 8.99% ต่อปี ทำให้ลดเงินงวดเหลือ 1,700 บาทต่อเดือนเท่านั้น     2. Re P-Loan : รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan : P-Loan) ที่ต้องการกู้เงินเพื่อไปชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล P-Loan ของสถาบันการเงิน หรือ Non-Bank อื่น ซึ่งเมื่อรีไฟแนนซ์/รวมหนี้มาผ่อนชำระกับธนาคาร จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจากเดิมประมาณ 25% ต่อปี ลงเหลือ 15% ต่อปี วงเงินให้กู้ตามภาระหนี้คงเหลือของสัญญากู้เดิม สูงสุดไม่เกินรายละ 100,000 บาท และไม่ต้องมีหลักประกัน ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี 3. Re-Nano : รับรีไฟแนนซ์สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อย ที่ต้องการปลดหนี้สินเชื่อ Nano Finance ที่กู้ไปเพื่อลงทุนในการประกอบอาชีพ ซึ่งเมื่อรีไฟแนนซ์/รวมหนี้มาผ่อนชำระกับธนาคาร จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจากเดิม 33% ต่อปี ลงเหลือ 18% ต่อปี วงเงินให้กู้ตามภาระหนี้คงเหลือของสัญญากู้เดิม สูงสุดไม่เกินรายละ 200,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 8 ปี โดยธนาคารออมสินร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการค้ำประกันการกู้ 4. Re-Home : รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่ต้องการกู้เงินเพื่อไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น วงเงินกู้ 1-5 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรีไฟแนนซ์มาผ่อนชำระกับธนาคาร จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยตามสัญญาเดิมที่ประมาณ 6 - 7% ต่อปี ลงเหลือ 1.95% ในปีที่ 1 (ปีที่ 2 = 2.95% ปีที่ 3 = 3.95%) คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.95% ต่อปี พร้อมเงื่อนไขผ่อนต่ำ ปีที่ 1 ผ่อนชำระเงินงวดล้านละ 3,000 บาท/เดือน ปีที่ 2 ล้านละ 4,000 บาท/เดือน และปีที่ 3 ล้านละ 5,000 บาท/เดือน อนึ่ง ธนาคารสนับสนุนนโยบายรัฐในการแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนของประชาชน ให้สามารถมีเงินเหลือใช้สอยดำรงชีพโดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบ รวมถึงส่งเสริมการปลูกฝังทัศนคติการกู้เงินเท่าที่จำเป็นและผ่อนไหว ทั้งนี้ มาตรการสินเชื่อรีไฟแนนซ์ “โครงการสินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม” เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน เปิดให้ยื่นขอกู้ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 และจัดทำนิติกรรมสัญญาภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567  

21 Apr 2024

...

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.15% ต่อปี จาก 6.75% เหลือ 6.60% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ EXIM BANK ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์) นับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยในเทศกาลสงกรานต์นี้ให้แก่ผู้ประกอบการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ในครั้งนี้เป็นการขานรับนโยบายของรัฐบาลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยลดภาระให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ EXIM BANK ในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ บรรเทาภาระหนี้และต้นทุนทางธุรกิจ และสามารถปรับตัวให้แข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืนในสภาวะที่เศรษฐกิจไทยเติบโตในอัตราที่ช้าลง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง  

13 Apr 2024

...

กบข. ร่วมกับทิพยประกันภัย มอบประกันอุบัติเหตุ และประกันบ้านปลอดภัย ให้สมาชิก กบข. เที่ยวสงกรานต์อย่างอุ่นใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่จำกัดสิทธิ์ ให้ความคุ้มครองนาน 30 วัน   นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)  เปิดเผยว่า กบข. ห่วงใยสมาชิกช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงร่วมกับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มอบสิทธิพิเศษ “ประกันภัยอุบัติเหตุ” และ “ประกันภัยบ้าน” ให้แก่สมาชิก โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่จำกัดสิทธิ์ เพื่อให้สมาชิกอุ่นใจ ไม่มีความกังวลปัญหาเรื่องบ้านและความปลอดภัย เมื่อเดินทางท่องเที่ยว หรือกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยสิทธิพิเศษ สมาชิก กบข. รับฟรีประกันภัยอุบัติเหตุ วงเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท จะให้ความคุ้มครองสำหรับความสูญเสียหรือเสียหายของร่างกาย อันเกิดจากความบาดเจ็บซึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอกร่างกายของผู้เอาประกันภัยโดยอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ให้ความคุ้มครองนาน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ และสิทธิพิเศษ สมาชิก กบข. รับฟรีประกันภัยสงกรานต์สุขใจบ้านปลอดภัย วงเงินคุ้มครองสูงสุด 30,000 บาท ให้ความคุ้มครองกรณีบ้านและคอนโดเกิดเหตุไฟไหม้ ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ รวมถึงบ้านโดนโจรกรรม ให้ความคุ้มครองนาน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ กรณีที่บ้านได้รับความเสียหายจนต้องหาที่พักอาศัยชั่วคราวจะได้รับค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราว 300 บาท/วัน ไม่เกิน 30 วัน ทั้งนี้ สมาชิก กบข. ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 6-12 เมษายน 2567 ผ่านทางไลน์ กบข. @gpfcommunity กดที่แบนเนอร์ประกันที่สมาชิกต้องการ เพื่อไปที่ไลน์ @tipgo จากนั้นกดเข้าเมนู “ลงทะเบียนประกันภัยอุบัติเหตุ หรือประกันสงกรานต์สุขใจบ้านปลอดภัย” และทำตามขั้นตอนการรับประกัน เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ จะได้รับอีเมลยืนยันความคุ้มครองจากทิพยประกันภัย โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการสมาชิก ซึ่ง กบข. ได้ร่วมมือกับพันธมิตรสวัสดิการอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดหา ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่หลากหลายและเหมาะสม ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทางการเงินและประกัน ตลอดจนสิทธิพิเศษส่วนลดอาหาร-เครื่องดื่ม บริการ และสินค้าทั่วประเทศ เฉพาะสมาชิก กบข. โดยสมาชิกสามารถติดตามรายละเอียดสวัสดิการทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ กบข. LINE กบข. และ My GPF Application สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook กบข. หรือ LINE กบข. @gpfcommunity หรือศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก โทร. 1179  

11 Apr 2024

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รับรางวัลเกียรติยศ Business Excellence in Thailand 2023 TOP CEO ภายในงาน 2023 ASIA CEO SUMMIT & AWARD CEREMONY งานมอบรางวัลสุดยอดผู้บริหารและแบรนด์ชั้นนำในเอเชีย โดยเลือกผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ด้วยเป็นผู้นำที่ได้เปลี่ยนธนาคารออมสินมาสู่การเป็นธนาคารเพื่อสังคม ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในมิติของการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ จำนวนมาก ตลอดปี 2563 - 2565 ซึ่งถือเป็นหน่วยงานหลักในการให้ความช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจให้ผ่านพ้นสถานการณ์ในช่วงวิกฤตโควิด-19 มาได้อย่างเข้มแข็ง อาทิ สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โครงการสร้างงานสร้างอาชีพ และโครงการ Holistic Area-based Development จังหวัดน่าน รวมทั้งเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและความมั่งคั่งให้กับคนไทย โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการทางการเงินด้วย ทั้งนี้ การมอบรางวัลดังกล่าว จัดขึ้นโดย บริษัท อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ และ บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด เพื่อเป็นเกียรติแก่แบรนด์ชั้นนำที่สร้างผลกระทบต่อผู้บริโภคและประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมากที่สุด ณ โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้    

08 Apr 2024

Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner