Responsive image

Thursday, 25 Apr 2024

หน้าแรก > INSURANCE / ประกันภัย - ประกันชีวิต


OCEAN LIFE ไทยสมุทร เผยปี 65 มีรายได้จากเบี้ยประกันชีวิต 15,008 ล้านบาท ปี 66 มุ่งโฟกัส Love Your Health ดูแลสุขภาพคนไทยด้วยพลังความรักครบวงจร

Sat 11/03/2566


คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2565 ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID – 19 เริ่มคลี่คลาย ภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว สำหรับ OCEAN LIFE ไทยสมุทร เราไม่หยุดที่จะเดินหน้าสร้างการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องด้วยพลังความรัก ภายใต้แนวคิด LOVE MINDSET เพื่อสนับสนุนให้คนไทยพร้อมรับมือทุกความไม่แน่นอนของชีวิต จนสามารถก้าวข้ามผ่านความท้าทายต่าง ๆ สร้างรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตรับรวมจำนวน 15,008 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน และทำกำไรสุทธิที่ 1,215 ล้านบาท พร้อมชูกลยุทธ์ปี 2566 เดินหน้าโฟกัสที่ความสำคัญของการรักสุขภาพ Love Your Health โดยมีเป้าหมายสร้างโลกใหม่ที่ดีขึ้นเพื่อคนรักสุขภาพ “Healthiverse” ตอบรับกระแสความต้องการด้าน Wellness & Prevention ช่วยคนไทยไม่ให้ป่วย ด้วยการส่งเสริมการดูแลสุขภาพครอบคลุมทั้งสุขภาพกายใจ พร้อมดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนา Solution ด้านสุขภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และบริการต่าง ๆ ครบวงจร

ปี 2565 เดินหน้าเอาชนะความท้าทายด้วย LOVE MINDSET

ปี 2565 บริษัทยังคงเดินหน้าต่อยอดสโลแกน “รักคือพลังของชีวิต” สู่แนวคิด LOVE MINDSET เพื่อสนับสนุนให้คนไทยพร้อมรับมือทุกความไม่แน่นอนของชีวิต ด้วยความรัก 3 ด้าน คือ รักสุขภาพ (Love Your Health) รักการออมวางแผนการเงิน (Love Your Wealth) และรักษ์โลกช่วยทำให้สังคมดีขึ้น (Love the World) ในขณะเดียวกันได้ใช้พลังความรักสร้างการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ พร้อมดูแลลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ และบริการดิจิทัลที่ครอบคลุมครบวงจร ส่งผลให้ในปี 2565 บริษัทสามารถสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับธุรกิจ มีรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตรับรวม 15,008 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน โดยมีเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ จำนวน 2,857 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 4% และมีเบี้ยประกันชีวิตรับปีต่อไปที่ 12,151 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 2% โดยมีอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์ที่ 86% สามารถสร้างการเติบโตที่โดดเด่นในช่องทางดิจิทัลซึ่งตอบโจทย์ยุค Next Normal มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 22% และช่องทางธนาคาร (Bancassurance) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะเดียวกันบริษัทยังได้ใช้ความสามารถในการบริหารพอร์ตลงทุน จนสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ถึง 5.04% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิจำนวน 1,215 ล้านบาท เติบโตขึ้น 28.5 %

ไม่หยุดพัฒนาศักยภาพรอบด้าน สร้างความยั่งยืนในทุกมิติ

OCEAN LIFE ไทยสมุทร ยังคงเดินหน้าใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนไทย ในขณะเดียวกันได้เล็งเห็นโอกาสจากการที่ประชาชนหันมาสนใจวางแผนบริหารความเสี่ยงด้านสุขภาพมากขึ้น จึงได้เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพที่มีความหลากหลาย ครอบคลุมในทุกกลุ่มทุกไลฟ์สไตล์ สนองตอบความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทุกคนพร้อมเผชิญวิกฤตในอนาคต รวมทั้งได้เร่งสร้างสรรค์นวัตกรรมการบริการด้านสุขภาพออนไลน์ (Digital Healthcare Services) ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยดูแลสุขภาพแบบองค์รวมทั้งก่อนป่วย ระหว่างป่วย และหลังป่วย เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีและความเป็นอยู่ที่ดียิ่งกว่าให้กับลูกค้าของเรา ในขณะที่ช่องทางตัวแทนประกันชีวิตเป็นช่องทางหลักของธุรกิจ OCEAN LIFE ไทยสมุทรได้ยกระดับตัวแทนประกันชีวิต สู่ที่ปรึกษาประกันชีวิต ด้วยการอบรมพัฒนาความสามารถอย่างเข้มข้น พร้อมใช้นวัตกรรมสร้างเครื่องมือช่วยขายที่ทันสมัย ใช้งานง่าย ให้ที่ปรึกษาประกันชีวิตสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว และตรงตามความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริง นอกจากนั้นบริษัทยังมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการบริหารจัดการด้วยความรอบคอบและการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพ พร้อมเปิดนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืน Sustainable with Love ซึ่งประกอบด้วย 3 แกนหลัก และ 2.แรงผลักดัน 1. Health – ความยั่งยืนด้านสุขภาพ สนับสนุนให้ทุกคนรักสุขภาพ ใช้ชีวิตไม่ประมาท 2. Wealth – ความยั่งยืนทางการเงิน สนับสนุนความรักการออมและวางแผนการเงิน 3. World – ความยั่งยืนของโลกและสังคมที่ดี สนับสนุนการรักษาและดูแลโลก สังคม สิ่งแวดล้อม และมีธรรมาภิบาลตามแนวทาง ESG โดยมี 2 พลังผลักดันสนับสนุนให้เกิดขึ้นจริง ได้แก่ People, Culture & Partnerships สร้างจิตสำนึกและพันธมิตรในการสร้างความยั่งยืน และ Technology & Innovation - สร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีช่วยขับเคลื่อนโครงการด้านความยั่งยืนให้เป็นเรื่องง่าย ทำให้ ณ สิ้นปี 2565 OCEAN LIFE ไทยสมุทร ยังคงยืนยันถึงความมั่นคงของบริษัทในการดำเนินธุรกิจด้านประกันชีวิตมากว่า 74 ปี ด้วยสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 98,167 ล้านบาท เงินสำรองประกันชีวิต จำนวน 78,785 ล้านบาท และมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน Capital Adequacy Ratio (CAR) อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 435.28% นับว่าเป็นอันดับต้น ๆ ของธุรกิจประกันชีวิต และสูงกว่าเงินกองทุนขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดที่ 120% ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า และคนไทยที่มองประกันชีวิตและประกันสุขภาพเพื่อให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่า

 

ปี 2566 ส่งมอบความรักสุขภาพให้คนไทย ด้วย 8 แนวคิดรักสุขภาพ

ปี 2566 OCEAN LIFE ไทยสมุทร เดินหน้าโฟกัส Love Your Health ให้คนไทยรักสุขภาพ ภายใต้แนวคิด LOVE MINDSET ด้วยการส่งเสริมให้คนไทยดูแลสุขภาพครอบคลุมทั้งสุขภาพกาย ใจ สังคม สิ่งแวดล้อม ครบทุกองค์ประกอบ ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่มีผลต่อสุขภาพที่ดี พร้อมสร้างความตระหนักรู้ ก่อให้เกิดนวัตกรรม และกิจกรรมที่ทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่าย โดยผสานความร่วมมือกับพันธมิตร ผู้เชี่ยวชาญช่วยแนะนำให้คำปรึกษา เพื่อวางแผนให้ใช้ชีวิตโดยไม่ป่วย พร้อมปิดความเสี่ยงด้วยการประกันชีวิต มุ่งลดค่าใช้จ่ายสุขภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย 8 แนวคิด โดยมีเป้าหมายสร้างโลกใหม่ที่ดีขึ้นเพื่อคนรักสุขภาพ “Healthiverse”

1.HEALTH Knowledge สื่อสารความรู้ข้อมูลสุขภาพที่ถูกต้อง และเป็นประโยชน์กับประชาชนโดยรวม ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของบริษัท โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ด้วยความร่วมเป็นอย่างดีจากโรงพยาบาลเครือข่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ

2.HEALTH Products พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ และโรคร้ายแรง ให้มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ลูกค้าในทุกกลุ่มทุกระดับ ง่ายสำหรับลูกค้าในการทำความเข้าใจผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยลูกค้าในการบริหารจัดการคุณภาพชีวิตให้ดีได้อย่างยั่งยืน 

3.HEALTH Consultant ยกระดับตัวแทนประกันชีวิต สู่การเป็นที่ปรึกษาประกันชีวิต ด้วยความสามารถในการนำเสนอการวางแผนด้านประกันชีวิตและสุขภาพให้กับคนไทย สอดรับกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงวัย และตามไลฟ์สไตล์ พร้อมส่งเสริมให้ที่ปรึกษาประกันชีวิตมีความรู้ความเข้าใจผลิตภัณฑ์อย่างลึกซึ้ง เพื่อให้สามารถแนะนำผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีคุณภาพ และตรงต่อความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า (Needs – Based Selling)

4.HEALTH Innovations ไม่หยุดที่จะพัฒนานวัตกรรมการดูแลสุขภาพครบวงจร เพื่อดูแลลูกค้าตั้งแต่ก่อนป่วย ในขณะที่ป่วย และหลังป่วย เพื่อส่งมอบสุขภาพที่ดี และคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งกว่าให้กับลูกค้า

5.HEALTH E-Services พัฒนาการบริการหลังการขายในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อรับบริการจากเราได้เพียงปลายนิ้ว ในทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ โดยล่าสุดได้เปิดตัวกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Policy เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากความคุ้มครองของประกันแบบต่าง ๆ ได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น

6.HEALTH Partners จับมือกับ Health Tech startup และพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อสร้างระบบนิเวศของการบริการสุขภาพ (Healthcare Ecosystem) ให้ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นในสังคม โดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในระบบบริการสุขภาพ ทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด

7.HEALTH Wellness & Prevention มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิต ที่เสนอประกันสุขภาพในการดูแลสุขภาพลูกค้าในเชิงป้องกันและฟื้นฟู โดยการสนับสนุนการดูแลรักษาร่างกายตั้งแต่ยังไม่ป่วย ด้วยการดูแลตนเองให้ดี ใช้หลักกินดี นอนดี ขยันออกกำลังกาย และไม่เครียด 

8.HEALTH Lifestyle สร้างสรรค์กิจกรรมต่าง ๆ ผ่านเครื่องมือที่ล้ำสมัย ตอบสนองความต้องการยุคดิจิทัลที่หลายคนต้องการความสะดวกรวดเร็ว โดยเรามี OCEAN CLUB APP เป็นตัวช่วยในการดูแลสุขภาพลูกค้าตลอดช่วงชีวิต พร้อมสิทธิประโยชน์มากมายให้แลกรับ โดยล่าสุดได้จับมือกับ Yes Token เปลี่ยน OCHI Coin ที่สะสมให้เป็นเหรียญคริปโท และร่วมกับ AIS ด้วยการใช้ Ochi Coin โอนเป็น AIS Point

คุณนุสราฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ทั้ง 8 แนวคิดดังกล่าว นับเป็นการสร้างความยั่งยืนด้านสุขภาพ Sustainable Health ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้ชื่อ Sustainable with Love ซึ่ง OCEAN LIFE ไทยสมุทร ตั้งใจใช้พลังความรักช่วยสร้างโลกแห่งสุขภาพดีให้คนไทย เพื่อให้ทุกคนมีร่างกายที่แข็งแรง และจิตใจที่เข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกันพร้อมเผชิญหน้ากับความผันผวน ไม่แน่นอน ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างดีที่สุด”

สนใจร่วมสร้างสุขภาพดีไปกับ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมที่หลากหลาย ผ่านทาง OCEAN CLUB APPLICATION / LINE : @oceanlife / Facebook : Oceanlifepage และเว็บไซต์ www.ocean.co.th  หรือติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.0 2207 8888


 


Tags : OCEAN LIFE ไทยสมุทร นุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ไทยสมุทรประกันชีวิต ไทยสมุทรเผยรายได้ปี2565 ไทยสมุทรเผยแผนงานปี2566


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายเร่งรัดการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน และได้สั่งการให้ธนาคารออมสินหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนลดภาระการผ่อนชำระหนี้ที่มีอยู่เดิม โดยเฉพาะผู้มีหนี้ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง ตลอดจนผู้ที่ประสบปัญหาสภาพคล่องอันเป็นผลกระทบจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจ ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐ และสอดรับกับบทบาทธนาคารเพื่อสังคม ธนาคารจึงพิจารณาออกมาตรการรีไฟแนนซ์ ภายใต้โครงการ “สินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม” รับรีไฟแนนซ์หนี้เดิม (ไม่ใช่การปล่อยสินเชื่อใหม่) เพื่อช่วยลดภาระแก่ลูกหนี้ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) ลูกหนี้บัตรเครดิต 2) ลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หรือ Personal Loan (P-Loan) 3) ลูกหนี้สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance) 4) ลูกหนี้สินเชื่อบ้าน ซึ่งการเปิดให้รีไฟแนนซ์สินเชื่อด้วยหลักเกณฑ์ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมเงื่อนไขพิเศษอื่นครั้งนี้ ตั้งเป้าช่วยเหลือประชาชนลดภาระการชำระหนี้ ผ่อนสบายมากขึ้น หรือผู้ที่รีไฟแนนซ์แล้วแต่ประสงค์ผ่อนชำระเงินงวดเท่าเดิม ก็จะตัดเงินต้นมากขึ้นเพราะดอกเบี้ยลดลง ทำให้ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น โดยมีรายละเอียดหลักเกณฑ์ทั้ง 4 มาตรการ ดังนี้    1. Re-Card : รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้บัตรเครดิต ที่ต้องการกู้เงินเพื่อไปชำระหนี้บัตรเครดิตของสถาบันการเงิน หรือ Non-Bank อื่น โดยการรีไฟแนนซ์/รวมหนี้บัตรเครดิตมาผ่อนชำระกับธนาคารออมสินในรูปแบบเงินกู้ระยะยาว (Long Term Loan) ช่วยลดภาระดอกเบี้ยจากเดิม 16% ต่อปี ลงเหลือ 8.99% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น) วงเงินกู้ไม่เกิน    5 เท่าของรายได้รวม สูงสุดไม่เกินรายละ 500,000 บาท และไม่ต้องมีหลักประกัน ซึ่งการรีไฟแนนซ์จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ลูกหนี้ ยกตัวอย่างกรณีเป็นหนี้บัตรเครดิต 100,000 บาท ปัจจุบันต้องจ่ายดอกเบี้ย 16% ต่อปี และผ่อนชำระขั้นต่ำ 8% ซึ่งเท่ากับ 8,000 บาทต่อเดือน เมื่อรีไฟแนนซ์มาเป็นเงินกู้ระยะยาว ธนาคารให้ผ่อนชำระได้สูงสุดไม่เกิน 7 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 8.99% ต่อปี ทำให้ลดเงินงวดเหลือ 1,700 บาทต่อเดือนเท่านั้น     2. Re P-Loan : รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan : P-Loan) ที่ต้องการกู้เงินเพื่อไปชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล P-Loan ของสถาบันการเงิน หรือ Non-Bank อื่น ซึ่งเมื่อรีไฟแนนซ์/รวมหนี้มาผ่อนชำระกับธนาคาร จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจากเดิมประมาณ 25% ต่อปี ลงเหลือ 15% ต่อปี วงเงินให้กู้ตามภาระหนี้คงเหลือของสัญญากู้เดิม สูงสุดไม่เกินรายละ 100,000 บาท และไม่ต้องมีหลักประกัน ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี 3. Re-Nano : รับรีไฟแนนซ์สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อย ที่ต้องการปลดหนี้สินเชื่อ Nano Finance ที่กู้ไปเพื่อลงทุนในการประกอบอาชีพ ซึ่งเมื่อรีไฟแนนซ์/รวมหนี้มาผ่อนชำระกับธนาคาร จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจากเดิม 33% ต่อปี ลงเหลือ 18% ต่อปี วงเงินให้กู้ตามภาระหนี้คงเหลือของสัญญากู้เดิม สูงสุดไม่เกินรายละ 200,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 8 ปี โดยธนาคารออมสินร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการค้ำประกันการกู้ 4. Re-Home : รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่ต้องการกู้เงินเพื่อไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น วงเงินกู้ 1-5 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรีไฟแนนซ์มาผ่อนชำระกับธนาคาร จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยตามสัญญาเดิมที่ประมาณ 6 - 7% ต่อปี ลงเหลือ 1.95% ในปีที่ 1 (ปีที่ 2 = 2.95% ปีที่ 3 = 3.95%) คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.95% ต่อปี พร้อมเงื่อนไขผ่อนต่ำ ปีที่ 1 ผ่อนชำระเงินงวดล้านละ 3,000 บาท/เดือน ปีที่ 2 ล้านละ 4,000 บาท/เดือน และปีที่ 3 ล้านละ 5,000 บาท/เดือน อนึ่ง ธนาคารสนับสนุนนโยบายรัฐในการแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนของประชาชน ให้สามารถมีเงินเหลือใช้สอยดำรงชีพโดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบ รวมถึงส่งเสริมการปลูกฝังทัศนคติการกู้เงินเท่าที่จำเป็นและผ่อนไหว ทั้งนี้ มาตรการสินเชื่อรีไฟแนนซ์ “โครงการสินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม” เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน เปิดให้ยื่นขอกู้ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 และจัดทำนิติกรรมสัญญาภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567  

21 Apr 2024

...

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.15% ต่อปี จาก 6.75% เหลือ 6.60% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ EXIM BANK ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์) นับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยในเทศกาลสงกรานต์นี้ให้แก่ผู้ประกอบการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ในครั้งนี้เป็นการขานรับนโยบายของรัฐบาลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยลดภาระให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ EXIM BANK ในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ บรรเทาภาระหนี้และต้นทุนทางธุรกิจ และสามารถปรับตัวให้แข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืนในสภาวะที่เศรษฐกิจไทยเติบโตในอัตราที่ช้าลง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง  

13 Apr 2024

...

กบข. ร่วมกับทิพยประกันภัย มอบประกันอุบัติเหตุ และประกันบ้านปลอดภัย ให้สมาชิก กบข. เที่ยวสงกรานต์อย่างอุ่นใจ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่จำกัดสิทธิ์ ให้ความคุ้มครองนาน 30 วัน   นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)  เปิดเผยว่า กบข. ห่วงใยสมาชิกช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงร่วมกับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มอบสิทธิพิเศษ “ประกันภัยอุบัติเหตุ” และ “ประกันภัยบ้าน” ให้แก่สมาชิก โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่จำกัดสิทธิ์ เพื่อให้สมาชิกอุ่นใจ ไม่มีความกังวลปัญหาเรื่องบ้านและความปลอดภัย เมื่อเดินทางท่องเที่ยว หรือกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยสิทธิพิเศษ สมาชิก กบข. รับฟรีประกันภัยอุบัติเหตุ วงเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท จะให้ความคุ้มครองสำหรับความสูญเสียหรือเสียหายของร่างกาย อันเกิดจากความบาดเจ็บซึ่งเกิดจากปัจจัยภายนอกร่างกายของผู้เอาประกันภัยโดยอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ให้ความคุ้มครองนาน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ และสิทธิพิเศษ สมาชิก กบข. รับฟรีประกันภัยสงกรานต์สุขใจบ้านปลอดภัย วงเงินคุ้มครองสูงสุด 30,000 บาท ให้ความคุ้มครองกรณีบ้านและคอนโดเกิดเหตุไฟไหม้ ความเสียหายจากภัยธรรมชาติ รวมถึงบ้านโดนโจรกรรม ให้ความคุ้มครองนาน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ลงทะเบียนรับสิทธิ์ กรณีที่บ้านได้รับความเสียหายจนต้องหาที่พักอาศัยชั่วคราวจะได้รับค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราว 300 บาท/วัน ไม่เกิน 30 วัน ทั้งนี้ สมาชิก กบข. ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 6-12 เมษายน 2567 ผ่านทางไลน์ กบข. @gpfcommunity กดที่แบนเนอร์ประกันที่สมาชิกต้องการ เพื่อไปที่ไลน์ @tipgo จากนั้นกดเข้าเมนู “ลงทะเบียนประกันภัยอุบัติเหตุ หรือประกันสงกรานต์สุขใจบ้านปลอดภัย” และทำตามขั้นตอนการรับประกัน เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ จะได้รับอีเมลยืนยันความคุ้มครองจากทิพยประกันภัย โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการสมาชิก ซึ่ง กบข. ได้ร่วมมือกับพันธมิตรสวัสดิการอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดหา ออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่หลากหลายและเหมาะสม ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทางการเงินและประกัน ตลอดจนสิทธิพิเศษส่วนลดอาหาร-เครื่องดื่ม บริการ และสินค้าทั่วประเทศ เฉพาะสมาชิก กบข. โดยสมาชิกสามารถติดตามรายละเอียดสวัสดิการทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ กบข. LINE กบข. และ My GPF Application สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook กบข. หรือ LINE กบข. @gpfcommunity หรือศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก โทร. 1179  

11 Apr 2024

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน รับรางวัลเกียรติยศ Business Excellence in Thailand 2023 TOP CEO ภายในงาน 2023 ASIA CEO SUMMIT & AWARD CEREMONY งานมอบรางวัลสุดยอดผู้บริหารและแบรนด์ชั้นนำในเอเชีย โดยเลือกผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ด้วยเป็นผู้นำที่ได้เปลี่ยนธนาคารออมสินมาสู่การเป็นธนาคารเพื่อสังคม ที่สามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในมิติของการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ปัญหาความยากจนได้อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ จำนวนมาก ตลอดปี 2563 - 2565 ซึ่งถือเป็นหน่วยงานหลักในการให้ความช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจให้ผ่านพ้นสถานการณ์ในช่วงวิกฤตโควิด-19 มาได้อย่างเข้มแข็ง อาทิ สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ โครงการสร้างงานสร้างอาชีพ และโครงการ Holistic Area-based Development จังหวัดน่าน รวมทั้งเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและความมั่งคั่งให้กับคนไทย โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการทางการเงินด้วย ทั้งนี้ การมอบรางวัลดังกล่าว จัดขึ้นโดย บริษัท อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ และ บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด เพื่อเป็นเกียรติแก่แบรนด์ชั้นนำที่สร้างผลกระทบต่อผู้บริโภคและประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมากที่สุด ณ โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้    

08 Apr 2024

Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner