Responsive image

Saturday, 19 Jul 2025

หน้าแรก > SOCIETY / ภาพข่าว - CSR - ข่าวการเมือง


“เมืองไทยประกันชีวิต” ปลื้มรับสถานประกอบกิจการดีเด่น เป็นปีที่ 2

Fri 18/08/2566


เมืองไทยประกันชีวิต บริษัทประกันชีวิตชั้นนำ ได้รับการพิจารณาคัดเลือกให้เป็นสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานประจำปี 2566 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน จากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน  โดยเป็นผลสัมฤทธิ์จากความพยายามและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการทำงานที่มีคุณภาพ พร้อมเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า  บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาและการบริหารจัดการด้านบุคลากรอย่างมืออาชีพ  มุ่งมั่นส่งเสริมการทำงานเป็นทีมที่มีแรงบันดาลใจสูง โดยให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและความร่วมมือ ทำให้พนักงานมีความเชื่อมั่นในองค์กรและมีความสุขในการทำงาน เราเชื่อว่าความสำเร็จขององค์กรขึ้นอยู่กับความพอใจและความสุขของพนักงานที่เป็นประโยชน์ต่อกันและต่อองค์กรโดยรวม  ทั้งนี้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและเอื้อต่อการเติบโตของพนักงาน บริษัทฯ ได้ดำเนินการพัฒนาทักษะ ความรู้ความสามารถ ตลอดจนการเสริมสร้างสวัสดิการแรงงานที่ดีเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของพนักงานในทุกมิติ  รวมถึงสวัสดิการทางการเงิน สวัสดิการสุขภาพ และโอกาสความก้าวหน้าในการพัฒนาทางอาชีพ  เรายังให้ความสำคัญกับการสร้างสัมพันธภาพทางทีมงานและวัฒนธรรมที่เปิดกว้าง  ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญ ในการสร้างการทำงานที่มีประสิทธิภาพและสร้างผลงานที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาและปรับปรุงนโยบายและกฎระเบียบด้านแรงงานและสวัสดิการแรงงาน เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและความต้องการของพนักงานในปัจจุบันที่มีความหลากหลายของพนักงานและความหลากหลายทางเจนเนอเรชัน   สำหรับในด้านสวัสดิการและสิทธิพิเศษนั้น บริษัทฯ มีการปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อม สังคมและวัฒนธรรมที่มีความเปลี่ยนแปลงและหลากหลาย  อาทิ  การอนุญาตให้ลาหยุดเพื่อการสมรสของพนักงานโดยไม่จำกัดเพศ   การอนุญาตให้ลาหยุดพิเศษในเดือนเกิด  การให้พนักงานชายสามารถลาหยุดกรณีภรรยาคลอดบุตร  นโยบาย  Working from anywhere (WFA)    การส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพใจของพนักงาน  ไม่ว่าจะเป็น การสนับสนุนให้ออกกำลังกาย โดยการจัดแข่งขันวิ่งมาราธอน การจัดแข่งขันไตรกีฬา  ทั้งนี้บริษัทฯ ได้มีการฝึกอบรมและฝึกซ้อมก่อนการลงแข่งขันจริง  

การดำเนินการด้านส่งเสริมสถานที่การออกกำลังกาย (Live & Fit @ Muangthai Fitness) ให้มีความพร้อมรองรับพนักงานและมีความทันสมัย โดยบริษัทฯ ได้ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดให้มีการฝึกสอนจากผู้เชี่ยวชาญมาถ่ายทอดความรู้อย่างถูกต้อง  ในด้านสุขภาพทางใจนั้น บริษัทฯ ยังได้รับจัดนักจิตวิทยามาให้คำปรึกษาแก่พนักงาน เพื่อเป็นการผ่อนคลายจากการทำงาน 

การปรับสวัสดิการแบบยืดหยุ่นให้ตรงกับความต้องการของพนักงาน  (Personalized Benefits)  ซึ่งเป็นแนวคิดที่สำคัญในการบริหารสวัสดิการและการจัดการทรัพยากรบุคคลขององค์กร เพื่อให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทฯ ให้ความสำคัญและใส่ใจในความเป็นอยู่ของพนักงาน  โดยสามารถดำเนินการเพื่อปรับสวัสดิการแบบยืดหยุ่น จัดแผนสวัสดิการที่หลากหลายเพื่อให้พนักงานได้เลือกตามความต้องการและสถานการณ์ส่วนบุคคล เช่น แผนประกันสุขภาพที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้มีครอบครัวหรือโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพส่วนบุคคล

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานที่กำหนดจากคณะกรรมการซึ่งประกอบไปด้วย ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง และผู้แทนฝ่ายรัฐ ในการพิจารณาตัดสิน โดยผลสัมฤทธิ์ที่ออกมานั้น บริษัทฯ ได้รับการพิจารณาและคัดเลือกให้เป็นสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานประจำปี 2566 เป็นครั้งที่ 2  นับเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งและเป็นแรงผลักดันให้บริษัทฯ มุ่งมั่นในการพัฒนาและสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการทำงานสำหรับพนักงาน บริษัทฯ จะดำเนินงานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้กับพนักงานเป็นสำคัญ และพร้อมเป็นสถานประกอบการที่เต็มไปด้วยโอกาสและมอบสิ่งที่ดีสำหรับพนักงาน

“บริษัทฯ ขอขอบคุณพนักงานทุกคนที่มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และขอขอบคุณกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่ได้รับการพิจารณาและคัดเลือกให้เราเป็นสถานประกอบกิจการดีเด่นในด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน  ทั้งนี้บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อประโยชน์ของพนักงานทุกคน” นายสาระ กล่าว

 


Tags : เมืองไทยประกันชีวิต สาระ ล่ำซำ สถานประกอบกิจการดีเด่น


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank โดย นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT HD เมื่อเร็ว ๆ นี้      

14 Jul 2025

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เห็นชอบให้ธนาคารออมสินจัดทำมาตรการแก้ไขหนี้รายย่อยในโครงการของรัฐบาลที่ออกมาช่วยประชาชนในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อรายย่อยไม่มีหลักประกัน ที่มีสถานะหนี้เสีย (NPLs) จำนวนรวมกว่า 500,000 บัญชี ให้สามารถหลุดพ้นจากประวัติหนี้เสีย โดยธนาคารจะดำเนินการทันทีเพื่อที่ในอนาคตลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เร็วขึ้นเมื่อมีความจำเป็น โดยแบ่งการดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการปิดบัญชีหนี้ ตัดหนี้สูญ และไม่ติดตามหนี้ ของลูกหนี้ NPLs จำนวนกว่า 200,000 บัญชี ในโครงการสินเชื่อตามนโยบายรัฐที่ได้รับงบประมาณชดเชยแล้ว ระยะที่ 2 ธนาคารจะทยอยดำเนินการปิดบัญชีหนี้แก่ลูกหนี้ NPLs โครงการสินเชื่อสู้ภัย COVID-19 จำนวนกว่า 300,000 บัญชี ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาธนาคารได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้มาอย่างต่อเนื่อง โดยสำหรับมาตรการปลดหนี้สินเชื่อตามโครงการของรัฐบาลที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤติการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้แล้วเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้รวมกว่า 11,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหนี้รายย่อย และช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางให้สามารถประคับประคองสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวให้เดินต่อได้ มุ่งเน้นดำเนินการเพียงครั้งเดียวเพื่อไม่ให้ลูกหนี้ต้องเสียวินัยทางการเงิน และยังสามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้อีกในอนาคต  

07 Jul 2025

...

    สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ปรับปรุงแนวทางการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัยสำหรับสัญญาประกันภัยระยะสั้น พร้อมทั้งทบทวนหลักเกณฑ์การคำนวณเงินกองทุนด้านความเสี่ยง เพื่อยกระดับความมั่นคงทางการเงินของบริษัทประกันภัยให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมุ่งเน้นการพิจารณาข้อมูลในระดับประเภทการรับประกันภัยแทนการพิจารณาภาพรวมทั้งบริษัท เพื่อให้การประเมินภาระผูกพันและการจัดสรรเงินกองทุนมีความละเอียด แม่นยำ และสอดคล้องกับลักษณะความเสี่ยงที่แท้จริงยิ่งขึ้น โดยระหว่างวันที่ 6-21 มีนาคม 2568 สำนักงาน คปภ. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นจากภาคธุรกิจและผู้เกี่ยวข้อง และจัดการประชุมชี้แจงไปเมื่อวันที่ 10-11 มีนาคม 2568 รวมทั้งได้จัดการประชุมกลุ่มย่อยเชิงเทคนิค (Focus Group) เสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ทั้งนี้ ในการประชุมฯ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ได้มีมติเห็นชอบการปรับปรุงประกาศที่เกี่ยวข้องกับสำรองเบี้ยประกันภัย ได้แก่ 1. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย 2. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดแบบ หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการส่งรายงานประจำปีการคำนวณความรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต และ 3. ประกาศ คปภ. เรื่องกำหนดประเภทและชนิดของเงินกองทุน รวมทั้งหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการคำนวณเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย สำหรับหลักการที่ได้มีการปรับปรุง คือ ปรับปรุงวิธีการคำนวณสำรองเบี้ยประกันภัย และเงินกองทุนสำหรับความเสี่ยงจากสำรองเบี้ยประกันภัย จากเดิม พิจารณาที่ระดับผลรวมทั้งหมดของสัญญาประกันภัยระยะสั้น เปลี่ยนเป็น พิจารณาที่ระดับประเภทการรับประกันภัย  ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะเผยแพร่ประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ดังนั้น บริษัทประกันภัยและผู้ที่เกี่ยวข้อง ควรเตรียมความพร้อมในการดำเนินการ เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่วันเริ่มมีผลบังคับใช้

07 Jul 2025

...

  ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank  ร่วมงาน “มหกรรมการเงินหาดใหญ่” ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม “DX by SME D Bank” (dx.smebank.co.th)   ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357

03 Jul 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner