Responsive image

Friday, 09 May 2025

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


เลขาธิการ คปภ. มอบรางวัลสุดยอดนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการประกันภัย “OIC InsurTech Award 2023” ในงาน TIF พร้อมต่อยอด InsurTech เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยของไทยเต็มสูบ

Fri 15/09/2566


ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) โดยศูนย์ Center of InsurTech, Thailand (CIT) จัดงานประกวดนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการประกันภัย หรือ OIC InsurTech Award 2023 ภายใต้แนวคิด “ASCENDING TO THE INSURTECH UNIVERSE – ทะยานสู่จักรวาลโลกแห่งเทคโนโลยีประกันภัย” เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรม InsurTech ของประเทศไทย ซึ่งในปีนี้มีทีมที่ให้ความสนใจสมัครร่วมประกวดเป็นจำนวนมากกว่า 300 ทีม โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทนิสิต นักศึกษา และประเภทประชาชนทั่วไป โดยมี 11 รางวัล รวมเงินรางวัลกว่า 500,000 บาท พร้อมโล่ และการตัดสินรอบชิงชนะเลิศจะให้ทีมที่ได้รับการคัดเลือกประเภทประชาชนทั่วไป 6 ทีมสุดท้าย และประเภทนิสิต นักศึกษา 5 ทีมสุดท้าย ที่ผ่านการคัดเลือกได้มานำเสนอผลงานที่บูธของสำนักงาน คปภ. ในงาน Thailand InsurTech Fair 2023 เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 เวลา 12.45 - 15.00 น. ณ อิมแพค เมืองทองธานี ฮออล์ 7 เมืองทองธานี

ในการนี้ ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. เป็นประธานคณะกรรมการตัดสินและการประกาศผลรางวัล และมีคณะกรรมการตัดสินจากผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 9 ท่าน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากภายในและภายนอกสำนักงาน คปภ. โดยการนำเสนอของแต่ละทีมในรอบชิงขนะเลิศเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2566 มีความหลากหลายและมีความน่าสนใจ ซึ่งการพิจารณาตัดสินรอบชิงชนะเลิศเป็นไปอย่างเข้มข้น

สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณา 100 คะแนน ประกอบด้วย 1. Wow factor & Pitching Presentation การนำเสนอโครงการได้อย่างน่าสนใจ ภายในเวลาที่กำหนด พร้อมทั้งตอบคำถามได้อย่างชัดเจนครบถ้วน ฟังแล้วน่าตื่นเต้น สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีในการฟังครั้งแรกได้ 30 คะแนน 2. Problem & Pain Point ปัญหาที่เสนอนั้นมีอยู่จริง และเกิดผลกระทบกับผู้คนจำนวนมาก 20 คะแนน 3. Product & Solution สิ่งที่เสนอมานั้น สามารถแก้ปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จ ครบทุกมิติ และมีความเป็นไปได้ในบริบทประเทศไทย 20 คะแนน 4. Market Opportunities มีโอกาสทางการตลาดมากน้อยเพียงใด 10 คะแนน และ 5. Technology ที่นำมาใช้ เป็น Technology ใหม่ ที่มีความน่าสนใจ ทันสมัย ประยุกต์ใช้ได้อย่างตอบโจทย์ และยังไม่มีการใช้งานแพร่หลายในธุรกิจประกันภัยมากนัก 20 คะแนน

ผลการตัดสินการประกวดนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการประกันภัย “OIC InsurTech Award 2023” ประเภทนิสิต นักศึกษา รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม การันTREE ภายใต้แนวคิด “การันTREE ตั้งต้นได้ เมื่อภัยมา” เป็น Application ให้บริการประกันภัยจากธรรมชาติแก่ต้นไม้ให้เกษตรกร โดยอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรไม่ต้องชำระเบี้ยประกันภัย ซึ่ง Application จะช่วยในการประเมินปริมาณ Carbon Credit จากต้นไม้ของเกษตรกร และเชื่อมโยงไปยังตลาดกลางซื้อขาย Carbon Credit เพื่อรับรายได้มาจ่ายค่าประกันภัย ทำให้มีความคุ้มครองเพิ่มขึ้น ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท พร้อมโล่รางวัล รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม นานุดต่างดาว ภายใต้แนวคิด “ประกันรูปแบบใหม่ ที่ผสานกับเทคโนโลยีวิเคราะห์ปัญหาผิวหน้าแต่ละบุคคลเพื่อจะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด” ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 70,000 บาท พร้อมโล่รางวัล รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม Lock Speed ภายใต้แนวคิด “Application สำหรับการติดตามพฤติกรรมการขับรถเชิงลึก พร้อมฟังก์ชั่นการบริการด้านการประกันภัย” ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 50,000 บาท พร้อมโล่รางวัล รางวัลชมเชยลำดับที่ 1 ได้แก่ ทีม Harvest Moon ภายใต้แนวคิด “ลดความเสี่ยงให้กับเกษตรกร และเพิ่มโอกาสทำกำไรให้กับบริษัทประกันไปกับ Harvest Moon” ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท และรางวัลชมเชยลำดับที่ 2 ได้แก่ ทีม Siri มงคล ภายใต้แนวคิด “ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์เพื่อบุตรสำเร็จการศึกษา เพิ่มทุนประกันภัยผ่านการออมของบุตร เพื่อสร้างประสบการณ์การออมตั้งแต่วัยเยาว์” ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท

ส่วนผลการตัดสินประเภทบุคคลทั่วไป รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม ERTIGO ภายใต้แนวคิด “สุขภาพกล้ามเนื้อที่ดี มีผลต่อสุขภาพ และยังส่งผลต่อเบี้ยประกันภัยและความคุ้มครองอย่างครบถ้วน” เป็นแพลตฟอร์มแก้ไขปัญหาออฟฟิศซินโดรม ที่มีการเก็บข้อมูล พฤติกรรมของแต่ละบุคคลที่ค่อนข้างละเอียด ทำให้บริษัทประกันภัยสามารถนำมาใช้เพื่อลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาล หรือนำไปลดเบี้ยประกันภัยของลูกค้าในรอบถัดไปได้ ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท พร้อมโล่รางวัล รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีม PRORESCUE_Thailand ภายใต้แนวคิด “ไม่มีใครเข้าใจปัญหาและตอบโต้เหตุฉุกเฉิน อย่างมืออาชีพได้ดีเท่ากับนักดับเพลิงอย่างเรา” ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 70,000 บาท พร้อมโล่รางวัล รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม Mednu ภายใต้แนวคิด “แพลตฟอร์มที่แนะนำโรงพยาบาลหรือสถานรักษา ตามความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลที่มี” ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท พร้อมโล่รางวัล รางวัลชมเชยลำดับที่ 1 ได้แก่ ทีม Powerpuff Girls ภายใต้แนวคิด “แอปพลิเคชันที่ช่วยให้บริษัทประกันภัยจัดการความเสี่ยงด้านการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท รางวัลชมเชยลำดับที่ 2 ได้แก่ ทีม CrackHi-AI ภายใต้แนวคิด “CrackHi-AI แตก หาย จ่าย จบ” ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท และรางวัลชมเชยลำดับที่ 3 ได้แก่ ทีม e-Safety Box ภายใต้แนวคิด “ที่จัดเก็บเอกสาร Electronic ที่สำคัญและมีความปลอดภัยสูง” ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท 

ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมด้านการประกันภัย (InsurTech) ด้วยแนวคิดและเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ ศูนย์ CIT ได้ขยายผลการจัดกิจกรรม CIT InsurTech Roadshow ไปยัง 4 ภาคทั่วประเทศไทย ทำให้สามารถเข้าถึงสถาบันการศึกษาทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด และหลากหลายสาขาวิชามากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพื่อกระจายและส่งต่อองค์ความรู้ด้าน InsurTech ให้มากขึ้น เพื่อก่อให้เกิดการเรียนรู้ การนำไปประยุกต์ และสร้างสรรค์ “นวัตกรรม” ให้ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้ จึงส่งผลให้การประกวด OIC InsurTech Award 2023 ในปีนี้ มีผู้สนใจสมัครเข้าร่วม ทั้งหมดจำนวนมากกว่า 300 ทีม มากกว่าปีที่ผ่านถึง 2 เท่าตัว

 

ภายในการแข่งขันตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา มีกิจกรรม Intensive  Bootcamp ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษสำหรับ 30 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบ โดยภายในงานมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมา Workshop เพื่อบ่มเพาะและพัฒนาทักษะในการคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) และได้มีทีมผู้ให้คำปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อคอยเป็น Mentor ให้คำปรึกษาและคำแนะนำแบบ Intensive Coaching เพื่อช่วยกระตุ้นความคิดและเสริมความแกร่งของผลงานให้สามารถตอบโจทย์ในด้านต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด และสามารถนำเสนอนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการประกันภัย ให้มีความน่าสนใจและมีความเป็นไปได้ในการต่อยอดไปสู่ภาคธุรกิจได้อย่างเต็มรูปแบบ

“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประกวดนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการประกันภัยของสำนักงาน คปภ. ประจำปี 2566 หรือ OIC InsurTech Awards 2023 จะช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ การมีส่วนร่วม การเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับทั้งภาคการศึกษา ภาคธุรกิจ และภาค Tech Startup ให้นำเทคโนโลยีมาต่อยอดเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และการบริการ ตลอดจนช่วยคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคด้านการประกันภัยของประชาชน ซึ่งศูนย์ CIT จะมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมและสร้างสรรค์ให้เกิดนวัตกรรม พร้อมทั้งประสานพลังคนทุก Generation โดยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและแลกเปลี่ยนความรู้ด้านเทคโนโลยีประกันภัย (InsurTech) ซึ่งจะเป็นประโยชน์เป็นอันมากต่อธุรกิจประกันภัยของไทยในอนาคต” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

 


Tags : คปภ. สำนักงาน คปภ. ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. OIC InsurTech Award 2023 นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการประกันภัย


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  ตามที่รัฐบาลโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้สถาบันการเงินเข้าช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะ กลุ่มผู้ปกครองที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลานในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ทั้งค่าชุดเครื่องแบบนักเรียน หนังสือ อุปกรณ์การเรียน และอื่น ๆ ด้วยการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้เข้าถึงการศึกษาอย่างต่อเนื่อง นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกมาตรการ “สินเชื่อธนาคารประชาชนต้อนรับเปิดเทอม” ที่ผ่อนเกณฑ์อนุมัติให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และเป็นการเดินหน้าภารกิจเชิงสังคมในการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม สำหรับผู้ปกครองที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการเตรียมความพร้อมแก่บุตรหลานในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่เพียง 0.60% ต่อเดือน วงเงินกู้ตามความจำเป็นสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อราย ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 1 ปี (12 งวด) ผ่อนชำระประมาณ 894 บาทต่อเดือน (รวมเงินต้นและดอกเบี้ย) ทั้งนี้ สำหรับผู้มีอาชีพ รายได้ และที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถยื่นขอสินเชื่อโดยไม่ต้องมีหลักประกัน ผ่านแอปพลิเคชัน MyMo หรือติดต่อธนาคารออมสินสาขาเพื่อขอคำแนะนำในการสมัครสินเชื่อ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2568  

08 May 2025

...

SME D Bank ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ดูแลกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีสิทธิ์กว่า 17,200 ราย อย่างใกล้ชิด พาเข้าร่วมแล้ว ณ วันที่ 23 เม.ย. 68 กว่า 7,200 ราย หรือคิดเป็นกว่า 40% จากลูกหนี้ทั้งหมดที่มีสิทธิ์ ประกาศข่าวดี ขยายระยะเวลาสมัครลงทะเบียนสมัครถึงวันที่ 30 มิ.ย. 68 นี้ เพื่อรับประโยชน์ช่วยลดภาระ สร้างโอกาสกลับมาเริ่มต้นธุรกิจอีกครั้ง นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า จากที่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย มีนโยบายแก้หนี้ให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่ง SME D Bank ขานรับนโยบายเข้าร่วมโครงการ ด้วยการเปิดให้ลูกหนี้ของธนาคารที่เข้าเกณฑ์จำนวนกว่า  17,200 ราย มูลหนี้ประมาณ  16,800  ล้านบาท   ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร (www.smebank.co.th)   รวมถึง ทำงานเชิงรุกด้วยการส่งจดหมายแนะนำโครงการไปถึงลูกหนี้ทุกรายที่มีสิทธิ์ ควบคู่กับให้ทีมงานธนาคารติดต่อลูกหนี้ทุกรายที่มีสิทธิ์ เพื่อให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด แนะนำถึงประโยชน์ของการเข้าร่วมโครงการ อีกทั้งเปิด Call Center สายพิเศษ รองรับให้บริการในโครงการนี้โดยเฉพาะผ่านเลขหมาย 1357 กด 99 ทั้งนี้  นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 จนถึงวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา มีลูกหนี้ลงทะเบียนเข้าโครงการแล้วกว่า 7,200 ราย หรือคิดเป็นกว่า 40% ของลูกหนี้ทั้งหมดของธนาคารที่มีสิทธิ์ ผ่านเกณฑ์โครงการกว่า 4,650 ราย  แยกตามประเภทอุตสาหกรรม  ภาคการค้า ประมาณ 38% ภาคบริการ ประมาณ 34% และภาคการผลิต ประมาณ 28%  โดยเป็นสัดส่วนกลุ่มธุรกิจที่ผ่านมาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” และทำสัญญาแล้ว จำนวนกว่า 2,900 ราย มูลหนี้กว่า 3,800 ล้านบาท   สำหรับกลุ่มที่ลงทะเบียนแบ่งเป็นกลุ่ม Lower SE (รายได้เกิน 1.8 ถึง 15  ล้านบาทต่อปี) จำนวน 58%  กลุ่ม Micro (รายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี)  จำนวน 24%  กลุ่ม Upper SE (รายได้เกิน 15 ถึง 100  ล้านบาทต่อปี) จำนวน  16% และกลุ่ม ME (รายได้เกิน  100  ล้านบาทต่อปี) จำนวน 2%  เมื่อรวมกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นรายเล็กกับรายย่อย ( Lower SE , Micro ) จำนวนรวมถึงกว่า 82% สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการรายเล็กของไทยมีศักยภาพเปราะบาง ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด  นอกจากนั้น ธนาคารยังช่วยเหลือด้านการพัฒนา เน้นการเพิ่มรายได้ขยายตลาด เช่น เชิญร่วมโครงการ  “SME D Market”  ซึ่งธนาคารจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เปิดโอกาสให้มาออกบูธจำหน่ายสินค้า  ณ  สำนักงานใหญ่ SME D Bank โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เชิญร่วมกิจกรรมคาราวานสินค้า สร้างโอกาสทางการตลาด และจับคู่ธุรกิจ  นอกจากนั้น เชิญร่วมโครงการไลฟ์คอมเมิร์ซ เวิร์คช้อปการทำตลาดยุคดิจิทัล พร้อมโอกาสเพิ่มรายได้ด้วยการให้คนดังบนโลกออนไลน์ช่วยบอกต่อ เป็นต้น   ทั้งนี้ จากที่โครงการดังกล่าว ได้ขยายเวลาลงทะเบียนออกไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน  2568  นับเป็นโอกาสดีที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงประโยชน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือลดค่างวดชำระ  3 ปี  เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่อง โดยปีแรกชำระเพียง 50% เท่านั้น    โดยค่างวดที่ชำระนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด อีกทั้ง ไม่เก็บดอกเบี้ย  3 ปี  เมื่อทำตามเงื่อนไข และหากชำระค่างวดมากกว่าขั้นต่ำ ตัดเงินต้นเพิ่ม ปิดหนี้จบได้อย่างรวดเร็ว   จึงขอเชิญชวนลูกหนี้ทุกรายที่มีสิทธิ์ รีบแจ้งความประสงค์ เพื่อรับผลประโยชน์ในการช่วยเหลือ  ลดภาระหนี้ และสร้างโอกาสให้กลับมาเริ่มต้นดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง  สามารถแจ้งความประสงค์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร (www.smebank.co.th)   หรือเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (www.bot.or.th/khunsoo) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357 กด 99   

05 May 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์การเงินการคลังของไทย ในงาน MOF Journey: 150 ปี เส้นทางการคลังไทย ในโอกาสครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง โดยจัดโปรโมชันเงินฝากเพื่อส่งเสริมการออมสำหรับงานนี้เท่านั้น เริ่มต้นด้วยเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 150 วัน อัตราดอกเบี้ยแบบ Step up เฉลี่ย 2.55% ต่อปี หรือเทียบเท่าเงินฝากประจำ 3.00% ต่อปี จองสิทธิ์ภายในงาน จำนวนจำกัด วันละ 150 สิทธิ์ และ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ และพลาดไม่ได้กับแคมเปญแห่งปี “ออมร้อย ชิงร้อยล้าน” ฝากสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ลุ้นรับรางวัลพิเศษมูลค่ารวม 100 ล้านบาท แบ่งเป็น รางวัลพิเศษ มูลค่า 1 ล้านบาท งวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 จำนวน 30 รางวัล และรางวัลพิเศษ มูลค่า 70 ล้านบาท งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เพียง 1 รางวัลเท่านั้น สำหรับผู้ฝากสลากตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 15 กรกฎาคม 2568 หรือเลือกฝากสลากออมสินพิเศษ / สลากดิจิทัล แบบ 2 ปี พร้อมรับของที่ระลึก นอกจากนี้ยังมี เงินฝาก Smart Junior เพื่อเด็กและเยาวชนที่มีอายุ 7 – 23 ปีบริบูรณ์ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.50% ต่อปี และได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2.10% ต่อปี เมื่อมียอดเงินฝากคงเหลือเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอย่างต่อเนื่อง โดย 24 เดือนแรก รับดอกเบี้ยพิเศษเพิ่มขึ้น 0.10% ทุก 2 เดือน สูงสุดไม่เกิน 1.60% ต่อปี และรับดอกเบี้ยโบนัสเพิ่มขึ้น 0.50% ใน 6 เดือนสุดท้าย ระยะเวลาฝากรวม 30 เดือน เปิดบัญชีขั้นต่ำ 1 บาท และเปิดบัญชีเงินฝาก 100 บาทขึ้นไป รับกระปุกออมสินคอลเลกชันพิเศษ GSB Love Earth ภายในบูธยังมีกิจกรรมพิเศษและรับกระปุกออมสิน รวมถึงการแนะนำการลงทะเบียนสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส นวัตกรรมสินเชื่อสำหรับคนที่ไม่เคยกู้แบงก์ได้มาก่อนอีกด้วย   งานครบรอบ 150 ปี วันสถาปนากระทรวงการคลัง จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อดีต–ปัจจุบัน-อนาคต” เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้เรียนรู้ถึงวิวัฒนาการด้านการคลังของไทยที่มีบทบาทในการพัฒนาประเทศตั้งแต่อดีตสู่ภารกิจการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่มั่งคงและยั่งยืนในอนาคต ภายในงานยังเป็นการร่วมแสดงพลังความสามัคคี การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อการบริการประชาชนและการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของหน่วยงานในสังกัด จึงขอเชิญชวนร่วมสัมผัสนวัตกรรมและบริการทางการเงินที่น่าสนใจ ทั้งจากบูธธนาคารออมสิน และหน่วยงานต่าง ๆ ในระหว่างวันที่ 1 - 3 พฤษภาคม 2568 ณ Hall 3 – 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  

30 Apr 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ก้าวสู่ผู้นำด้านความโปร่งใสและจริยธรรมทางธุรกิจ โดยได้รับการเลื่อนสถานะเป็น CAC Change Agent จากองค์กรแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม โปร่งใส ปกป้องผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเผยแพร่ไปยังคู่ค้าให้มีห่วงโซ่อุปทานที่ใสสะอาด กรุงเทพประกันชีวิต เชื่อมั่นในพลังความใส่ใจและมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืน โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านการคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) เป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ความสำเร็จครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมหลักธรรมาภิบาลที่ดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อองค์กรรวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ โดยกรุงเทพประกันชีวิตจะยังคงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านความโปร่งใสและจริยธรรมทางธุรกิจต่อไป

30 Apr 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner