Responsive image

Friday, 09 May 2025

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


LINE BK เร่งเครื่องรุกนายหน้าประกันเต็มตัว มุ่งเจาะกลุ่มคุ้มครองคนตัวเล็ก ชูประกันโดนใจ ซื้อง่าย จ่ายเบา จบใน LINE พร้อมจัดแคมเปญพิเศษคุ้ม 2 ต่อ

Thu 28/09/2566


LINE BK ผู้ให้บริการ Social Banking รายแรกในเมืองไทย เดินหน้าต่อยอดบริการทางการเงินให้ครอบคลุมตอบโจทย์ทุกความต้องการ พร้อมลุยธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต ภายใต้บริษัท กสิกร ไลน์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพได้สะดวกรวดเร็ว ช่วยลดความเสี่ยงทางการเงินให้กลุ่มคนตัวเล็ก โดยเฉพาะฟรีแลนซ์และลูกจ้างประจำที่ยังไม่มีประกัน  เดินหน้าจับมือ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต  นำเสนอประกันที่สามารถจ่ายผ่าน LINE BK ครบจบบนแอปพลิเคชัน LINE พร้อมฉลองเปิดตัวบริการใหม่ มอบโปรโมชันสุดพิเศษให้กับลูกค้าเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพผ่าน LINE BK ตั้งแต่วันนี้ - 15 พฤศจิกายน 2566

นายธนา โพธิกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กสิกร ไลน์ จำกัด ผู้ให้บริการ Social Banking ภายใต้ชื่อ LINE BK เผยว่า นับจากวันแรก LINE BK ตั้งเป้าที่จะเข้ามาทำให้เรื่องเงินเป็นเรื่องง่ายในแอปพลิเคชัน LINE โดยมุ่งพัฒนาบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านการเงินของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ครบทั้ง 4 มิติ ได้แก่ การออม (Saving), สินเชื่อ (Lending), การป้องกันความเสี่ยง (Protection) และการลงทุน (Investment) โดยเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา LINE BK ได้มีการเปิดตัวบริการตามแผนที่วางไว้มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการทางการเงินทั้ง  ฝาก ถอน โอน จ่าย และยืมได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัยในแอปพลิเคชัน LINE ซึ่งล่าสุดได้เปิดตัวบริการ LINE BK Insurance Broker เพื่อเติมเต็มบริการในมิติของการป้องกันความเสี่ยง ภายใต้ บริษัท กสิกร ไลน์ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ตอกย้ำการเดินตามแผนที่วางไว้อย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ

โดยมองว่าประกันเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินพื้นฐาน ที่จะเข้ามาช่วยให้ลูกค้า LINE BK สามารถวางแผนบริหารจัดการทางการเงิน เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดเกี่ยวกับสุขภาพและอุบัติเหตุได้ดีมากยิ่งขึ้น อีกทั้งมองว่าธุรกิจประกันชีวิต ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก จากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประชาชนเริ่มให้ความสำคัญของการทำประกันชีวิตและสุขภาพมากขึ้น จากการแพร่ระบาดโรคอุบัติใหม่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา  แนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐเรื่องมาตรการลดหย่อนภาษีของประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ภาคธุรกิจยังได้ส่งเสริมให้บริษัทประกันนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการเสนอขาย ซึ่งจะช่วยยกระดับการสร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นของผู้ซื้อประกันมากขึ้น

ทั้งนี้ LINE BK Insurance Broker ได้นำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพได้อย่างรวดเร็ว สามารถเลือกซื้อและชำระเงินได้ครบจบบนแอปพลิเคชัน LINE  นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมความคุ้มครองและเข้าใจง่ายเหมาะสมกับทุกไลฟ์สไตล์อีกด้วย

“ผลิตภัณฑ์ประกันที่ LINE BK นำเสนอในช่วงแรก ได้จับมือกับทาง เมืองไทยประกันชีวิต หรือ MTL เพื่อคัดสรรประกันที่มีความคุ้มครองที่เหมาะสมและครอบคลุมกับความต้องการคนในปัจจุบัน ด้วยราคาเบาๆ  ภายใต้แนวคิด “ประกันโดนใจ ซื้อง่าย จ่ายเบา จบใน LINE” ​โดยอธิบายภาษาประกันให้เข้าใจง่าย รวมทั้งเลือกซื้อได้ง่ายด้วยตัวเองผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน LINE จบทุกขั้นตอนภายในแอปเดียว อีกทั้งสามารถ ถาม-ตอบ ข้อสงสัยการซื้อหรือข้อมูลผลิตภัณฑ์ทั่วไปกับพี่หมีที่เป็น Chat bot ผ่าน LINE BK Official Account (@LINEBK) ได้ตลอดเวลา สอดรับกับเทรนด์โลกที่คนส่วนใหญ่ต่างหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพและมองหาความคุ้มครองด้านสุขภาพมากขึ้น เพื่อคุ้มครองโรคภัยไข้เจ็บทั่วไป รวมถึงโรคร้ายต่างๆ จากสภาวะแวดล้อมในปัจจุบัน  ซึ่งน่าจะเป็นโอกาสในการเจาะตลาดประกันชีวิต โดยมุ่งไปที่กลุ่มอาชีพอิสระที่ไม่มีความคุ้มครองจากประกันกลุ่มของนายจ้าง หรือกลุ่มพนักงานประจำที่มองหาความคุ้มครองเพิ่มเติม รวมถึงกลุ่มลูกจ้างรายวันที่ไม่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่มีค่าเบี้ยสูง เป็นต้น” ธนา กล่าว

 

ด้านนายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมืองไทยประกันชีวิตมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ LINE BK  ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของการผสานความแข็งแกร่งของทั้งสององค์กรได้อย่างลงตัว ในการเป็นช่องทางที่จะช่วยทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงแบบประกันชีวิตและความคุ้มครองสุขภาพ พร้อมสามารถเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเองได้อย่างเหมาะสม พร้อมช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต หลักประกันที่มั่นคง และสร้างความอุ่นใจหากเกิดเหตุไม่คาดคิดได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและความคุ้มครองสุขภาพของเมืองไทยประกันชีวิต ที่นำเสนอขายผ่านช่องทาง LINE BK ในช่วงแรกนั้น ได้คัดสรรแผนประกันที่มีความคุ้มครองครอบคลุมครบทุกด้าน เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า LINE BK โดยเฉพาะกลุ่มคนตัวเล็กที่กำลังทรัพย์ไม่ได้เยอะ ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าแบบ Outside In  เพื่อให้สามารถเข้าถึงความคุ้มครองจากเมืองไทยประกันชีวิตได้สะดวกขึ้น  ซึ่งเป็นหัวใจที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ชีวิตของทุกคนมีรอยยิ้มได้

โดยเบื้องต้น LINE BK ได้คัดสรร 5 ผลิตภัณฑ์ ของ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กับแพ็กเกจประกันชีวิตและสุขภาพมานำเสนอบนช่องทาง LINE BK ดังนี้

  1. ผู้ป่วยนอกเบาเบา – ช่วยแบ่งเบาค่ารักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก เลือกวงเงินความคุ้มครองได้สูงสุด 2,000 บาท (1) ต่อครั้ง สูงสุด 30 ครั้งต่อปี(2) เบี้ยเบาๆ เริ่มต้นเพียง วันละไม่ถึง 6 บาท(3) ซื้อได้โดยไม่ต้องซื้อพ่วงกับประกันสุขภาพผู้ป่วยใน ช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก ค่าธรรมเนียมปรึกษาแพทย์ ค่าวินิจฉัยและค่ายา และอื่นๆสามารถซื้อได้ตั้งแต่อายุ 20-58 ปี ไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุก็คุ้มครอง
  2. โรคร้ายเจอจ่าย – รับเงินก้อนเมื่อตรวจเจอโรคร้ายทั้งระยะเริ่มต้นและระยะรุนแรง สูงสุด 500,000 บาท เพื่อใช้เป็นค่ารักษา หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ได้ตามต้องการ สามารถเลือกความคุ้มครองตามโรคที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มโรคมะเร็ง, กลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและกล้ามเนื้อ หรือกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดและหัวใจ เบี้ยไม่แพง เริ่มต้นเพียงวันละไม่ถึง 1 บาท(4) สามารถซื้อได้ตั้งแต่อายุ 20-58 ปี
  3. ผู้ป่วยในท็อปอัพ - ช่วยเติมเต็มค่ารักษาส่วนเกินจากประกันหรือสวัสดิการที่มีอยู่เมื่อนอนโรงพยาบาล สูงสุด 500,000 บาท / ครั้ง (มีความรับผิดส่วนแรก 20,000 บาท/ครั้ง) ค่าห้อง 4,000 บาทต่อวัน และไม่จำกัดครั้งการเข้าแอดมิต(5) ครอบคลุมทั้งโรคร้ายแรง โรคทั่วไป โรคระบาด ผ่าตัด และอุบัติเหตุ เบี้ยเริ่มต้นเบาๆ เพียงวันละไม่ถึง 11 บาท(6) สามารถซื้อได้ตั้งแต่อายุ 20-69 ปี
  4. ผู้ป่วยในเหมาเหมา – เหมาจ่ายค่าห้องเดี่ยวมาตรฐานและค่ารักษาตามจริง สูงสุด 500,000บาท/ครั้ง ไม่จำกัดครั้งการเข้าแอดมิต(5) ครอบคลุมทั้งโรคร้ายแรง โรคทั่วไป โรคระบาด ผ่าตัด และอุบัติเหตุ เมื่อนอนโรงพยาบาล รวมถึงค่าห้องเดี่ยวมาตรฐานทุกโรงพยาบาล เบี้ยเริ่มต้นเบาๆ เพียงวันละไม่ถึง 22 บาท(7) สามารถซื้อได้ตั้งแต่อายุ 21-59 ปี
  5. ชดเชยไม่ขาดเงิน – ให้ความคุ้มครองค่าชดเชยรายวัน สูงสุด 1,000 บาท/วัน(1) สูงสุด 365 วันต่อครั้ง(5) กรณีลูกค้าได้รับบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยจนต้องนอนรักษาตัวเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล รับเพิ่ม 2 เท่าเมื่อนอน ICU หรือนอนโรงพยาบาลด้วยอุบัติเหตุ สูงสุด 45 วันต่อครั้ง(5) เบี้ยเริ่มต้นเบาๆ เพียงวันละไม่ถึง 3 บาท(8)   สามารถซื้อได้ตั้งแต่อายุ 20-58 ปี

 

ทุกแบบประกันสามารถสมัครได้โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ เพียงตอบคำถามสุขภาพตามความเป็นจริง และไม่ต้องสำรองจ่ายเมื่อเข้ารักษาที่โรงพยาบาลคู่สัญญาที่มีมากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด โดยมีประกัน “ผู้ป่วยนอกเบาเบา” และ “โรคร้ายเจอจ่าย” เป็นผลิตภัณฑ์เรือธง และเพื่อฉลองการเปิดตัวบริการใหม่ LINE BK ขอมอบแคมเปญสุดพิเศษให้กับลูกค้าเมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและประกันสุขภาพผ่าน LINE BK ตั้งแต่วันนี้ - 15 พฤศจิกายน 2566 คุ้ม 2 ต่อ

ต่อที่ 1: รับเงินคืน (cashback) 15% ของยอดชำระเบี้ยประกันภัยครั้งแรก ทุกกรมธรรม์  จำกัด 1 สิทธิ์/ 1 กรมธรรม์/ 1 บัญชีผู้ใช้งาน

ต่อที่ 2: ลุ้นรับจี้ทองคำนกกระเรียนเสริมมงคล หนัก 1 บาท  15 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 500,000 บาท

ระหว่างวันที่ 1 กันยายน 2566 – 15 พฤศจิกายน 2566 ทั้งนี้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ความท้าทายในการดำเนินธุรกิจประกันชีวิต ในฐานะโบรกเกอร์ของ LINE BK คงหนีไม่พ้นเรื่องของภาวะเศรษฐกิจในประเทศ เรื่องปัญหาปากท้อง ที่ต้องคอยติดตามว่ามีแนวโน้มดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ในอนาคตตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ออนไลน์ร่วมกับพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

“ผลกระทบหลังโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว อาจส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อประกันใหม่และความสามารถในการชำระเบี้ย โดยในช่วงเริ่มต้นจะเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์และขยายฐานลูกค้า เจาะกลุ่มคนตัวเล็กและกลาง เริ่มจากประกันสุขภาพที่เข้าใจและจับต้องได้ง่าย ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์มากขึ้น ซึ่งในอนาคตจะร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์

ออนไลน์รูปแบบใหม่ ๆ กับเมืองไทยประกันชีวิตและบริษัทอื่น ๆ เพื่อขายผ่านช่องทาง LINE BK บนแอป LINE โดยเฉพาะ เพื่อทำให้มีความสะดวกสบายตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกซื้อ จนถึงการจ่ายเงิน” ธนา กล่าวทิ้งท้าย

หมายเหตุ

  1. กรณีเลือก แผน 3 (แผนเพิ่มไว้อุ่นใจ)
  2. สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอกได้ 1 ครั้งต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 30 ครั้งต่อปี และการรักษาโรค หรือภาวะแทรกซ้อนจากโรคเดียวกันต่อเนื่องได้ไม่เกิน 7 ครั้ง แต่หากต้องรักษาพยาบาลต่อเนื่องด้วยสาเหตุของโรคเดิม และระยะเวลาห่างจากการรักษาครั้งสุดท้ายเกินกว่า 14 วัน ให้ถือเป็นการรักษาโรคใหม่
  3. สำหรับเพศชาย อายุ 20 ปี เลือกแผน 1 (แผนกำลังดี) ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก 500 บาทต่อครั้งต่อวัน และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
  4. สำหรับเพศชาย อายุ 20 ปี เลือกแผน 3 (แผนหัวใจ) ความคุ้มครองกลุ่มโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดและหัวใจ และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
  5. วงเงินค่ารักษาผู้ป่วยใน (IPD) ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ทั้งนี้ บริษัทจะนับรวมวงเงินค่ารักษาเดิม กรณีรักษาตัวด้วยโรคเดิม หรือด้วยเหตุจากการบาดเจ็บหรือการป่วยเดียวกัน รวมถึงภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้อง หรือต่อเนื่องกันภายใน 90 วัน หากเกิน 90 วัน นับแต่วันที่ออกจากโรงพยาบาลครั้งสุดท้าย จะนับเป็นวงเงินค่ารักษาใหม่
  6. สำหรับเพศชาย อายุ 20 ปี เลือกแผน 1 (แผนกำลังดี) ค่าห้อง 2,000 บาทต่อวัน ความคุ้มครองผู้ป่วยใน 200,000 บาท/ครั้ง(มีความรับผิดส่วนแรก 20,000 บาท/ครั้ง)  และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
  7. สำหรับเพศชาย อายุ 21 ปี เลือกแผน 1 (แผนกำลังดี)  ความคุ้มครองผู้ป่วยใน 50,000 บาท/ครั้ง และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
  8. สำหรับเพศชาย อายุ 20 ปี เลือกแผน 1 (แผนกำลังดี)  ความคุ้มครองชดเชยรายวัน 300บาท/วัน และชำระเบี้ยประกันภัยรายปี
  • โครงการผู้ป่วยนอกเบาเบา เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันภัย คุ้มครองภายในระยะเวลา 10/10 และสัญญาเพิ่มเติมการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก
  • โครงการโรคร้ายเจอจ่าย เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันภัย คุ้มครองภายในระยะเวลา 10/10 และสัญญาเพิ่มเติมโรคร้ายแรง ดี แคร์ (D Care)
  • โครงการผู้ป่วยในท็อปอัพ เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันภัยเมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น 90/90 และสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพแบบ เอ็กซ์ตร้า แคร์ (N)
  • โครงการผู้ป่วยในเหมาเหมา เป็นชื่อทางการตลาดของแบบประกันภัยเมืองไทย สมาร์ท โพรเทคชั่น 90/90 และสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพแบบ ดี เฮลท์ (N)

 

  • โครงการชดเชยไม่ขาดเงิน เป็นชื่อทางการตลาดของ แบบประกันภัย คุ้มครองภายในระยะเวลา 10/10 และสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพเอชไอพี (HIP)
  • รับประกันภัยโดย บมจ. เมืองไทยประกันชีวิต 
  • การแถลงสุขภาพเป็นปัจจัยหนึ่งในพิจารณารับประกันภัย /พิจารณาจ่ายเงินตามสัญญาประกันภัย ทั้งนี้การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต กำหนด

ผลประโยชน์ เงื่อนไข และความคุ้มครองโดยละเอียด เป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์

หมายเหตุ

  • LINE BK Insurance Broker ในฐานะนายหน้าประกันชีวิต ใบอนุญาตเลขที่  ช00017/2565 สอบถามรายละเอียดและเงื่อนไขเพิ่มเติมได้ที่ LINE BK Official Account หรือพิมพ์ @linebk หรือ ที่ LINE BK Call Center โทร. 02-555-5555
  • การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
  • โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย

Tags : LINE BK ธนา โพธิกำจร กสิกร ไลน์ LINE BK Insurance Broker เมืองไทยประกันชีวิต สาระ ล่ำซำ MTL


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  ตามที่รัฐบาลโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบหมายให้สถาบันการเงินเข้าช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะ กลุ่มผู้ปกครองที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลานในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ทั้งค่าชุดเครื่องแบบนักเรียน หนังสือ อุปกรณ์การเรียน และอื่น ๆ ด้วยการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนในระบบ เพื่อเสริมสภาพคล่อง ลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ และส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยได้เข้าถึงการศึกษาอย่างต่อเนื่อง นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออกมาตรการ “สินเชื่อธนาคารประชาชนต้อนรับเปิดเทอม” ที่ผ่อนเกณฑ์อนุมัติให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และเป็นการเดินหน้าภารกิจเชิงสังคมในการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม สำหรับผู้ปกครองที่มีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการเตรียมความพร้อมแก่บุตรหลานในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่ ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำคงที่เพียง 0.60% ต่อเดือน วงเงินกู้ตามความจำเป็นสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาทต่อราย ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 1 ปี (12 งวด) ผ่อนชำระประมาณ 894 บาทต่อเดือน (รวมเงินต้นและดอกเบี้ย) ทั้งนี้ สำหรับผู้มีอาชีพ รายได้ และที่อยู่อาศัยแน่นอน สามารถยื่นขอสินเชื่อโดยไม่ต้องมีหลักประกัน ผ่านแอปพลิเคชัน MyMo หรือติดต่อธนาคารออมสินสาขาเพื่อขอคำแนะนำในการสมัครสินเชื่อ ได้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2568  

08 May 2025

...

SME D Bank ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ดูแลกลุ่มเอสเอ็มอีที่มีสิทธิ์กว่า 17,200 ราย อย่างใกล้ชิด พาเข้าร่วมแล้ว ณ วันที่ 23 เม.ย. 68 กว่า 7,200 ราย หรือคิดเป็นกว่า 40% จากลูกหนี้ทั้งหมดที่มีสิทธิ์ ประกาศข่าวดี ขยายระยะเวลาสมัครลงทะเบียนสมัครถึงวันที่ 30 มิ.ย. 68 นี้ เพื่อรับประโยชน์ช่วยลดภาระ สร้างโอกาสกลับมาเริ่มต้นธุรกิจอีกครั้ง นายพิชิต มิทราวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า จากที่รัฐบาล โดยกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย มีนโยบายแก้หนี้ให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย ผ่านโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่ง SME D Bank ขานรับนโยบายเข้าร่วมโครงการ ด้วยการเปิดให้ลูกหนี้ของธนาคารที่เข้าเกณฑ์จำนวนกว่า  17,200 ราย มูลหนี้ประมาณ  16,800  ล้านบาท   ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร (www.smebank.co.th)   รวมถึง ทำงานเชิงรุกด้วยการส่งจดหมายแนะนำโครงการไปถึงลูกหนี้ทุกรายที่มีสิทธิ์ ควบคู่กับให้ทีมงานธนาคารติดต่อลูกหนี้ทุกรายที่มีสิทธิ์ เพื่อให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด แนะนำถึงประโยชน์ของการเข้าร่วมโครงการ อีกทั้งเปิด Call Center สายพิเศษ รองรับให้บริการในโครงการนี้โดยเฉพาะผ่านเลขหมาย 1357 กด 99 ทั้งนี้  นับตั้งแต่เปิดลงทะเบียนเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 จนถึงวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา มีลูกหนี้ลงทะเบียนเข้าโครงการแล้วกว่า 7,200 ราย หรือคิดเป็นกว่า 40% ของลูกหนี้ทั้งหมดของธนาคารที่มีสิทธิ์ ผ่านเกณฑ์โครงการกว่า 4,650 ราย  แยกตามประเภทอุตสาหกรรม  ภาคการค้า ประมาณ 38% ภาคบริการ ประมาณ 34% และภาคการผลิต ประมาณ 28%  โดยเป็นสัดส่วนกลุ่มธุรกิจที่ผ่านมาตรการ “จ่ายตรง คงทรัพย์” และทำสัญญาแล้ว จำนวนกว่า 2,900 ราย มูลหนี้กว่า 3,800 ล้านบาท   สำหรับกลุ่มที่ลงทะเบียนแบ่งเป็นกลุ่ม Lower SE (รายได้เกิน 1.8 ถึง 15  ล้านบาทต่อปี) จำนวน 58%  กลุ่ม Micro (รายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี)  จำนวน 24%  กลุ่ม Upper SE (รายได้เกิน 15 ถึง 100  ล้านบาทต่อปี) จำนวน  16% และกลุ่ม ME (รายได้เกิน  100  ล้านบาทต่อปี) จำนวน 2%  เมื่อรวมกลุ่มผู้ประกอบการที่เป็นรายเล็กกับรายย่อย ( Lower SE , Micro ) จำนวนรวมถึงกว่า 82% สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการรายเล็กของไทยมีศักยภาพเปราะบาง ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด  นอกจากนั้น ธนาคารยังช่วยเหลือด้านการพัฒนา เน้นการเพิ่มรายได้ขยายตลาด เช่น เชิญร่วมโครงการ  “SME D Market”  ซึ่งธนาคารจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน เปิดโอกาสให้มาออกบูธจำหน่ายสินค้า  ณ  สำนักงานใหญ่ SME D Bank โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เชิญร่วมกิจกรรมคาราวานสินค้า สร้างโอกาสทางการตลาด และจับคู่ธุรกิจ  นอกจากนั้น เชิญร่วมโครงการไลฟ์คอมเมิร์ซ เวิร์คช้อปการทำตลาดยุคดิจิทัล พร้อมโอกาสเพิ่มรายได้ด้วยการให้คนดังบนโลกออนไลน์ช่วยบอกต่อ เป็นต้น   ทั้งนี้ จากที่โครงการดังกล่าว ได้ขยายเวลาลงทะเบียนออกไปถึงวันที่ 30 มิถุนายน  2568  นับเป็นโอกาสดีที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงประโยชน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือลดค่างวดชำระ  3 ปี  เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่อง โดยปีแรกชำระเพียง 50% เท่านั้น    โดยค่างวดที่ชำระนำไปตัดเงินต้นทั้งหมด อีกทั้ง ไม่เก็บดอกเบี้ย  3 ปี  เมื่อทำตามเงื่อนไข และหากชำระค่างวดมากกว่าขั้นต่ำ ตัดเงินต้นเพิ่ม ปิดหนี้จบได้อย่างรวดเร็ว   จึงขอเชิญชวนลูกหนี้ทุกรายที่มีสิทธิ์ รีบแจ้งความประสงค์ เพื่อรับผลประโยชน์ในการช่วยเหลือ  ลดภาระหนี้ และสร้างโอกาสให้กลับมาเริ่มต้นดำเนินธุรกิจได้อีกครั้ง  สามารถแจ้งความประสงค์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร (www.smebank.co.th)   หรือเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (www.bot.or.th/khunsoo) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357 กด 99   

05 May 2025

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์การเงินการคลังของไทย ในงาน MOF Journey: 150 ปี เส้นทางการคลังไทย ในโอกาสครบรอบ 150 ปี กระทรวงการคลัง โดยจัดโปรโมชันเงินฝากเพื่อส่งเสริมการออมสำหรับงานนี้เท่านั้น เริ่มต้นด้วยเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 150 วัน อัตราดอกเบี้ยแบบ Step up เฉลี่ย 2.55% ต่อปี หรือเทียบเท่าเงินฝากประจำ 3.00% ต่อปี จองสิทธิ์ภายในงาน จำนวนจำกัด วันละ 150 สิทธิ์ และ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ และพลาดไม่ได้กับแคมเปญแห่งปี “ออมร้อย ชิงร้อยล้าน” ฝากสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ลุ้นรับรางวัลพิเศษมูลค่ารวม 100 ล้านบาท แบ่งเป็น รางวัลพิเศษ มูลค่า 1 ล้านบาท งวดวันที่ 16 พฤษภาคม 2568 จำนวน 30 รางวัล และรางวัลพิเศษ มูลค่า 70 ล้านบาท งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 เพียง 1 รางวัลเท่านั้น สำหรับผู้ฝากสลากตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 15 กรกฎาคม 2568 หรือเลือกฝากสลากออมสินพิเศษ / สลากดิจิทัล แบบ 2 ปี พร้อมรับของที่ระลึก นอกจากนี้ยังมี เงินฝาก Smart Junior เพื่อเด็กและเยาวชนที่มีอายุ 7 – 23 ปีบริบูรณ์ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 0.50% ต่อปี และได้รับอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2.10% ต่อปี เมื่อมียอดเงินฝากคงเหลือเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนอย่างต่อเนื่อง โดย 24 เดือนแรก รับดอกเบี้ยพิเศษเพิ่มขึ้น 0.10% ทุก 2 เดือน สูงสุดไม่เกิน 1.60% ต่อปี และรับดอกเบี้ยโบนัสเพิ่มขึ้น 0.50% ใน 6 เดือนสุดท้าย ระยะเวลาฝากรวม 30 เดือน เปิดบัญชีขั้นต่ำ 1 บาท และเปิดบัญชีเงินฝาก 100 บาทขึ้นไป รับกระปุกออมสินคอลเลกชันพิเศษ GSB Love Earth ภายในบูธยังมีกิจกรรมพิเศษและรับกระปุกออมสิน รวมถึงการแนะนำการลงทะเบียนสินเชื่อสร้างเครดิต สร้างโอกาส นวัตกรรมสินเชื่อสำหรับคนที่ไม่เคยกู้แบงก์ได้มาก่อนอีกด้วย   งานครบรอบ 150 ปี วันสถาปนากระทรวงการคลัง จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อดีต–ปัจจุบัน-อนาคต” เพื่อให้ผู้เข้าชมงานได้เรียนรู้ถึงวิวัฒนาการด้านการคลังของไทยที่มีบทบาทในการพัฒนาประเทศตั้งแต่อดีตสู่ภารกิจการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่มั่งคงและยั่งยืนในอนาคต ภายในงานยังเป็นการร่วมแสดงพลังความสามัคคี การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อการบริการประชาชนและการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของหน่วยงานในสังกัด จึงขอเชิญชวนร่วมสัมผัสนวัตกรรมและบริการทางการเงินที่น่าสนใจ ทั้งจากบูธธนาคารออมสิน และหน่วยงานต่าง ๆ ในระหว่างวันที่ 1 - 3 พฤษภาคม 2568 ณ Hall 3 – 4 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  

30 Apr 2025

...

บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ก้าวสู่ผู้นำด้านความโปร่งใสและจริยธรรมทางธุรกิจ โดยได้รับการเลื่อนสถานะเป็น CAC Change Agent จากองค์กรแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ แสดงถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม โปร่งใส ปกป้องผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และเผยแพร่ไปยังคู่ค้าให้มีห่วงโซ่อุปทานที่ใสสะอาด กรุงเทพประกันชีวิต เชื่อมั่นในพลังความใส่ใจและมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืน โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านการคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) เป็นระยะเวลากว่า 3 ปี ความสำเร็จครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมหลักธรรมาภิบาลที่ดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อองค์กรรวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ โดยกรุงเทพประกันชีวิตจะยังคงมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำด้านความโปร่งใสและจริยธรรมทางธุรกิจต่อไป

30 Apr 2025

Banner Banner Banner Banner

Banner
  เทียบจุดแข็งแกร่ง “วิริยะ-ทิพย-กรุงเทพ” ประกันภัย   เมื่อพูดถึงวงการประกันภัย-วินาศภัยเมืองไทย มี 3 บริษัทใหญ่ของวงการและของประเทศไทย ที่ถือว่าเป็น”ขาใหญ่”หรือขาประจำที่แต่ละปี บริษัททั้ง 3 บริษัท มีกลยุทธ์การตลาด และจุดแข็งที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท และบริษัททั้ง 3 บริษัทนี้กำลังจะแย่งชิงเบี้ยประกันภัยเพื่อเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย เมื่อเทียบสัดส่วนในเรื่องยอดขาย และในแง่ของผลกำไร            ในแง่ยอดขายต่อปี          เบอร์ 1 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการทำประกันภัยรถยนต์ ที่มีเบี้ยประกันภัยสูงขายง่าย แต่ละปีสร้างยอดขายได้มีเบี้ยประกันภัยรับตรงรวม 40,879 ล้านบาท          เบอร์ 2 บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งงานประกันภัย Non Motor ประเภทขนส่งสินค้า Marin รวมทั้งลูกค้าของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทำให้มียอดขายรับประกันภัยตรงอยู่ที่ 31,736.1 ล้านบาทแซงหน้าบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ไปเรียบร้อย          เบอร์ 3 บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยจุดแข็งการเป็นบริษัท ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่ สามารถขยายตลาดผ่านพันธมิตรหรือผู้ถือหุ้นได้ง่าย และทำตลาดประกันภัยโครงสร้างพื้นฐาน โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ของรัฐจึงทำให้มีเบี้ยประกันภัยต่อปี มีเบี้ยประกันภัยรวม 22,439 ล้านบาท จะกลับไล่บี้เบอร์ 1และ 2 ได้ต่อไป         ในแง่ผลกำไรต่อปี         เบอร์ 1 คงต้องให้บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เนื่องจากได้งานจากหน่วยงานภาครัฐ และมีพันธมิตรที่หลากหลาย ด้วยยอดขายที่สูง และมีการบริหารการลงทุนที่พร้อม เพราะมีธนาคารออมสิน, กบข. , ธนาคารกรุงไทย, ปตท., บางจาก  ทำให้มีผลกำไรมาเป็นอันดับ 1  ทำให้บริษัทสามารถทำกำไรจากการรับประกันได้ 2,631 ล้านบาท        เบอร์ 2  ต้องยกให้เป็นของบริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) ด้วยการรับประกันภัยที่มีความเสี่ยงภัยต่ำ รวมทั้งความเชี่ยวชาญในการบริหารเงินลงทุนโดยธนาคารกรุงเทพ ทำให้มีผลกำไรมาเป็นที่ 2 และมีเบี้ยประกันภัยเป็นอันดับที่ 2        เบอร์ 3 บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) มียอดขายเป็นอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยเน้นประกันภัยรถยนต์ยอดขายสูงก็มีความเสี่ยงสูง ผลกำไรน้อย จึงวางไว้เป็นเบอร์ 3 ในด้านผลกำไร                                                 นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา)                                               บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner