Responsive image

Wednesday, 06 Dec 2023

หน้าแรก > SOCIETY - CSR / ภาพข่าว-กิจกรรมเพื่อสังคม


เมืองไทยประกันชีวิต พร้อมด้วยมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ผนึกกำลังกรมกิจการผู้สูงอายุ จัดการอบรมหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ Care Giver

Mon 13/11/2566


เมืองไทยประกันชีวิตและมูลนิธิเมืองไทยยิ้มจับมือกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  จัดอบรม โครงการ การอบรมหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ Care Giver  หลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุขั้นเบื้องต้น จำนวน 18 ชั่วโมง  เพื่อจัดฝึกอบรมให้กับประชาชนทั่วไปหรือผู้ที่สนใจให้มีทักษะความรู้ที่จำเป็นในการดูแลผู้สูงอายุ ตอบรับสถานการณ์การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย

นายสาระ ล่ำซำ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)   กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์  ซึ่งเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง  กับประเทศไทยที่จะต้องท้าทายในหลายด้าน อาทิ ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจเกี่ยวกับการจัดการทางการเงินและการออม การจัดสวัสดิการสังคมที่เหมาะสม การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ และการปรับตัวให้เข้ากับสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีจำนวนบุคลากรที่มีความรู้และความเข้าใจในการดูแลผู้สูงอายุอย่างถูกต้องไม่เพียงพอต่อการดูแลผู้สูงอายุ ตลอดจนขาดการดูแลผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพในหลายชุมชนและหลายระดับในสังคม  

บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญในประเด็นดังกล่าว จึงได้ร่วมมือกับ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม และกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้อยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน โดยจัดโครงการสร้างผู้ดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) ซึ่งเป็นแนวคิดที่เน้นการจัดฝึกอบรมและพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีทักษะความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุอย่างมีมาตรฐาน เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชนได้อย่างมีคุณภาพ และป้องกันปัญหาการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงของผู้สูงอายุ ส่งผลให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้สูงอายุที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสังคมอยู่ในขณะนี้

สำหรับการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุเบื้องต้น  จำนวน 18 ชั่วโมง เป็นมาตรฐานหลักสูตรกลางของประเทศไทยในการจัดอบรมผู้ดูแลผู้สูงอายุสำหรับสมาชิกในครอบครัว อาสาสมัคร ประชาชนทั่วไป หรือผู้ที่สนใจ ซึ่งถูกกำหนดโดยคณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ โดยหลักสูตรดังกล่าวมีกรมกิจการผู้สูงอายุ  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบทำหน้าที่ในการกำกับดูแลหลักสูตร โดยเมื่ออบรมผ่านตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในหลักสูตร ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับประกาศนียบัตร สำหรับการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน 

โครงการดังกล่าวได้จัดฝึกอบรมให้กับประชาชนทั่วไป หรือผู้ที่สนใจ รวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ของบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต โดยมุ่งหวังให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับทักษะความรู้ที่จำเป็นในการดูแลผู้สูงอายุ อาทิเช่น การจัดการเวลาและการวางแผนทางการเงินสำหรับผู้สูงอายุ ความรู้ทั่วไปของผู้สูงอายุ สิทธิสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุ จิตวิทยาการดูแลสุขภาพใจผู้สูงอายุ การส่งเสริมสุขภาพ การปฐมพยาบาลผู้สูงอายุเบื้องต้น โรคที่พบบ่อยและกลุ่มอาการผู้สูงอายุ อาหารและโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึง ทักษะพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งหัวข้อการอบรมครอบคลุมในทุกมิติของการดูแลผู้สูงอายุ

ทั้งนี้ การจัดอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุดังกล่าว จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับตัวผู้สูงอายุเอง สมาชิกในครอบครัวผู้สูงอายุ ผู้ดูแลผู้สูงอายุ หรือแม้กระทั่งอาสาสมัครที่เป็นจิตอาสาดูแลผู้สูงอายุในชุมชนในด้านของการเพิ่มพูนทักษะความรู้และเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการดูแลผู้สูงอายุในสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุ โดยหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุจะช่วยให้สามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ทั้งในด้านของการป้องกัน ส่งเสริม และดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในภาวะปกติและฉุกเฉิน การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในผู้สูงอายุ การส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการทางสังคม และการสร้างเจตคติที่ดีในการอยู่ร่วมกันกับผู้สูงอายุในสังคม เป็นต้น เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง ลดปัญหาการเข้าสู่ภาวะพึ่งพิงในระยะยาว และมีความสุขในการดำเนินชีวิต ตลอดจนช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนเข้ามาร่วมรับผิดชอบในการดูแลผู้สูงอายุและสร้างสังคมที่น่าอยู่

การจัดอบรมฯ  ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับเกียรติจาก นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุเบื้องต้น จำนวน 18 ชั่วโมง รุ่นที่ 1 ซึ่งกรมกิจการผู้สูงอายุ ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนมาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุ และเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุทุกกลุ่มเป้าหมายในสังคม มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนที่ช่วยส่งเสริมการจัดอบรมสร้างผู้ดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชน โดยมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์สูงสุดให้กับผู้สูงอายุ

ในโอกาสนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นเดินหน้าสนับสนุนการจัดอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุขั้นเบื้องต้น จำนวน 18 ชั่วโมง ในรุ่นต่อไป ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด  เพื่อขยายโอกาสในการเสริมสร้างทักษะความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวและชุมชนต่าง ๆ  และพร้อมสร้างความร่วมมือในการรับผิดชอบ
ต่อสังคมร่วมกันของการดูแลผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน 

 

และนอกจากนี้บริษัทฯ ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดอบรมหลักสูตรการดูแลผู้สูงอายุขั้นสูง จำนวน 420 ชั่วโมง ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ช่วยสร้างผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เป็นมาตรฐานทางวิชาชีพ ทำให้เกิดบุคลากรในสาขาอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับจำนวนผู้สูงอายุ ที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสาขาอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ เพื่อสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพและให้เกิดรายได้ที่เหมาะสมและเป็นธรรมสำหรับบุคลากรเหล่านี้ รวมทั้งส่งผลให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่มีถูกต้องและเหมาะสม  โดยจะเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ มีหลักประกันคุณภาพและการได้รับบริการที่เป็นมาตรฐาน

“การจัดฝึกอบรมและการพัฒนาศักยภาพทักษะในด้านการดูแลผู้สูงอายุมีประโยชน์เป็นอย่างมากทั้งส่วนบุคคล ครอบครัว และสังคม สามารถช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลที่มีคุณภาพและสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข สุขภาพร่างกายจิตใจแข็งแรง เสริมสร้างสังคมที่เข้มแข็ง และช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้สูงอายุ นับได้ว่าเป็นความร่วมมืออันดีระหว่างกรมกิจการผู้สูงอายุ​ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับบริษัท​ เมืองไทยประกัน​ชีวิต​ จำกัด​ (มหาชน​) และมูลนิธิเมืองไทยยิ้ม ในการร่วมกันสร้างสรรค์สังคมคุณภาพให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน​ต่อไป”  นายสาระ กล่าวสรุป.

 


Tags : เมืองไทยประกันชีวิต MTL สาระ ล่ำซำ มูลนิธิเมืองไทยยิ้ม พิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การอบรมหลักสูตรดูแลผู้สูงอายุ Care Giver ย์


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” เพื่อรณรงค์ด้านความปลอดภัยทางถนนและอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทางไกลช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 ซึ่งบริษัทฯ มุ่งส่งเสริมการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยการสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเล็งเห็นความสำคัญของการตรวจเช็คความพร้อมของสภาพรถยนต์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง พร้อมให้บริการตรวจสภาพรถยนต์เบื้องต้นฟรี จำนวน 20 รายการ หลังตรวจเสร็จรับทันทีกระบอกน้ำ “บิ๊กไซส์” ขนาด 2 ลิตร ณ ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัย ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 31 แห่ง ระหว่างวันที่ 1 – 29 ธันวาคม 2566   นางสาวกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า วิริยะประกันภัย ดำเนินกิจกรรมรณรงค์ด้านความปลอดภัยทางถนนในรูปแบบต่างๆ ร่วมกับ ทุกภาคส่วนในสังคมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งในการช่วยลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้น้อยลง โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ช่วงวันหยุดยาวที่มีประชาชนเป็นจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนในต่างจังหวัด ทั้งนี้ จากรายงานของศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุทางถนน (ThaiRSC) ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2566 จนถึงปัจจุบัน พบว่าอัตราการเกิดอุบัติเหตุ การบาดเจ็บและเสียชีวิต ในรอบปีที่ผ่านมายังคงอยู่ในระดับสูง โดยมีผู้เสียชีวิตสะสม 12,634 ราย บาดเจ็บสะสม 723,296 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2566) บริษัทฯ ตระหนักถึงปัญหาและความสูญเสียดังกล่าว จึงได้ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” เพื่อเป็นของขวัญต้อนรับเทศกาลปีใหม่ และถือเป็นการส่งมอบความห่วงใยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน ด้วยการเชิญชวนให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้พร้อมก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ร่วมเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน และช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ลดน้อยลง                                                                                 ทั้งนี้ ลูกค้าของวิริยะประกันภัยและประชาชนทั่วไป สามารถนำรถยนต์เข้ารับการตรวจเช็คสภาพเบื้องต้น จำนวน 20 รายการ อาทิ ตรวจระดับน้ำมันเครื่อง ตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ ตรวจเช็คสภาพการทำงานของไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณ ตรวจสอบคันเร่ง ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำมัน ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ ตรวจสอบเบรก ตรวจสอบไส้กรองอากาศ ตรวจสอบคลัตซ์ ตรวจสอบระบบบังคับเลี้ยว ตรวจสภาพการทำงานของเครื่องยนต์ ณ ศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยที่ติดป้ายประชาสัมพันธ์กิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ 2567” พร้อมรับของที่ระลึกฟรี กระบอกน้ำ “บิ๊กไซส์” ขนาด 2 ลิตร ภายหลังตรวจสภาพรถยนต์ โดยท่านสามารถนำรถยนต์เข้ารับบริการได้ตั้งแต่บัดนี้ ไปจนถึงวันที่ 29 ธันวาคม 2566 สำหรับศูนย์ซ่อมมาตรฐานวิริยะประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการให้บริการตรวจรถฟรี จำนวน 31 แห่ง ได้แก่  1) บริษัท เฮงบอดี้คาร์ เซอร์วิส จำกัด 2) บริษัท วงษ์ศิริเลิศ คาร์ เซอร์วิส (1997) จำกัด 3) บริษัท เจริญภัภัณฑ์ยนตรกิจ เซอร์วิส จำกัด 4) บริษัท นที อินเตอร์เซอร์วิส จำกัด สาขา 1 5) บริษัท อู่แม่กลอง จำกัด 6) อู่ร่วมมิตรการาจ 7) บริษัท เอส ซี ซี 65 การาจ จำกัด 8) บริษัท อ.พิพัฒน์ยนต์ จำกัด 9) บริษัท คุงการาจ จำกัด 10) บริษัท เซอร์กิตบริการ จำกัด 11) บริษัท เพอร์เฟคท์ สปีด ไลน์ จำกัด 12) บริษัท อู่บอส 888 การาจ จำกัด 13) บริษัท ธนพัฒน์ ออโต้ เซ็นเตอร์ จำกัด 14) บริษัท อู่กังวานชัยการช่าง จำกัด 15) บริษัท อู่วิชัยยนต์ จำกัด 16) บริษัท เทวินทร์ คาร์เซ็นเตอร์ จำกัด 17) บริษัท อู่ เอส.เอส. อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด 18) บริษัท เจ.เอส.อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด 19) บริษัท รุ่งเจริญ บอดี้ คลีนิก จำกัด 20) บริษัท สุขุมวิท เอ.ที. เซอร์วิส จำกัด 21) บริษัท นิวเพื่อนยนต์ จำกัด 22) บริษัท เซอร์กิต ติวานนท์ จำกัด 23) หจก. งามวงศ์วาน คาร์แคร์ 24) บริษัท อู่นำชัย รัตนาธิเบศร์ จำกัด 25) บริษัท ไทยรัตน์ยานยนต์ จำกัด 26) บริษัท เจริญกิจ ราชพฤกษ์ จำกัด 27) บริษัท อู่นำชัย เตาปูน จำกัด 28) บริษัท เจริญกิจ ออโต้ เซอร์วิส จำกัด 29) หจก. เจดีย์ออโต้เซอร์วิส 30) หจก. เป้งการาจ 31) หจก. สุทินคาร์เซอร์วิส        

05 Dec 2023

...

  ธนาคารออมสิน รับมอบนโยบายตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศเดินหน้า “การแก้ไขหนี้นอกระบบ” เป็นวาระแห่งชาติ โดยธนาคารพร้อมขับเคลื่อนภารกิจขานรับนโยบายรัฐ ตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ให้ธนาคารออมสินช่วยเหลือลูกหนี้เงินกู้นอกระบบที่เดือดร้อนจากการนำเงินกู้ไปใช้ประกอบอาชีพ โดยธนาคารเปิดให้กู้ “สินเชื่อธนาคารประชาชน เพื่อแก้ไขหนี้นอกระบบ” เพื่อใช้บรรเทาความเดือดร้อนภาระหนี้นอกระบบที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิ์ยื่นกู้เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพ มีรายได้ อายุ 20 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 65 ปีเมื่อรวมอายุตัวกับระยะเวลาชำระคืนเงินกู้ วงเงินให้กู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อเดือน (Flat Rate) ระยะเวลาชำระคืนเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี หรือ 60 งวด สามารถใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์อื่นเป็นหลักประกันได้   ทั้งนี้ สามารถติดต่อขอกู้ที่ธนาคารออมสินได้ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ GSB Contact Center โทร. 1115  

03 Dec 2023

...

FWD ประกันชีวิต เชิญชวนลูกค้าดาวน์โหลดและสมัครสมาชิกแอปพลิเคชัน Omne by FWD แอปพลิเคชันที่ช่วยให้ประกันเป็นเรื่องง่ายและเร็วขึ้น ครอบคลุมทุกบริการด้านกรมธรรม์และกิจกรรมไลฟ์สไตล์ โดยทุกการดาวน์โหลดและสมัครสมาชิกบริการออนไลน์ลูกค้า FWD สำเร็จ 1 บัญชี บริษัทฯ จะมอบเงินสมทบทุนจำนวน 18 บาท ให้แก่โครงการ “ช่วยน้อง ให้มองเห็น” ในกองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชินี มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2566 นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“FWD ประกันชีวิต”) กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ (Digital by designed)  และยกระดับการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องเข้าใจง่าย และเข้าถึงได้ง่าย เราจึงพัฒนาแอปพลิเคชัน Omne by FWD  อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้ด้วยตนเองอย่างสะดวก รวดเร็ว ครอบคลุมการจัดการข้อมูลกรมธรรม์ การกู้เงินในกรมธรรม์ การยื่นเคลมออนไลน์ที่รับเงินคืนได้ภายในไม่กี่นาที รวมถึงกิจกรรมไลฟ์สไตล์ที่ให้ลูกค้าสะสมแต้มแลกของรางวัล ครบ จบง่ายในแอปเดียว เราจึงขอเชิญชวนลูกค้า FWD สมัครสมาชิกแอปพลิเคชัน Omne by FWD พร้อมร่วมกันมอบโอกาสการมองเห็นให้เด็กไทย โดยทุกการดาวน์โหลดและสมัครสมาชิกบริการออนไลน์ลูกค้า FWD ระหว่างวันที่ 16 พฤศจิกายน ถึง 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ จะมอบเงินสมทบทุนจำนวน 18 บาทต่อ 1 บัญชี ให้แก่โครงการ “ช่วยน้อง ให้มองเห็น” ในกองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชินี มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก เพื่อใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคความผิดปกติของจอตา หรือ ROP และลดจำนวนเด็กตาบอดและสายตาพิการตั้งแต่แรกคลอด ซึ่งข้อมูลของสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (โรงพยาบาลเด็ก) ระบุว่าโรคดังกล่าวเป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของการตาบอดในเด็กไทย โดยในแต่ละปีจะพบในเด็กคลอดก่อนกำหนดประมาณ 4,000 คน* มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเสริมความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคม ผ่านโครงการ Omne by FWD ช่วยน้องให้มองเห็น เพื่อให้เด็กไทยได้รับการดูแลและสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเท่าเทียม คุณเดวิด กล่าวทิ้งท้าย   ลูกค้าผู้ถือกรมธรรม์ FWD ประกันชีวิต สามารถดาวน์โหลดและสมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการแอปพลิเคชัน Omne by FWD ได้ฟรีผ่าน App Store และ Google Play Store *แหล่งข้อมูล มูลนิธิโรงพยาบาลเด็ก กองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ The Children's Hospital Foundation (childrenhospitalfoundation.org)

02 Dec 2023

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า วันนี้ (1 ธ.ค.2566) ธนาคารได้ออกรางวัลสลากอออมสินพิเศษ 2 ปี ภายใต้แคมเปญแจกรางวัล รวม 80 ล้านบาท ให้กับผู้ฝากตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. – 30 พ.ย.2566 เป็นรางวัลพิเศษมูลค่า 50 ล้านบาท 1 รางวัล ซึ่งธนาคารขอแสดงความยินดีกับผู้โชคดี นายศักดิ์เสรี ส่งศิริ ลูกค้าสาขาคลองโพ จ.อุตรดิตถ์ ผู้ถือสลากออมสินพิเศษงวดที่ 246 หมวดอักษร R หมายเลขสลาก 0716090 เป็นลูกค้าที่ชอบเก็บออมเงินด้วยการฝากสลากออมสินพิเศษมาอย่างยาวนานสม่ำเสมอตั้งแต่วัยเด็ก เคยถูกรางวัลเล็กน้อย ครั้งนี้ถือเป็นการถูกรางวัลใหญ่ครั้งแรกในชีวิต โดยวันที่ 15 ธันวาคม 2566 ผู้ถูกรางวัลพิเศษให้เกียรติเดินทางร่วมพิธีมอบเงินรางวัลที่ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ ด้วยตนเอง ส่วนรางวัลที่ 1 มูลค่าเงินรางวัล 30 ล้านบาท ธนาคารขอแสดงความยินดีกับลูกค้าผู้ถือสลากออมสินพิเศษ งวดที่ 240 หมวด ช หมายเลขสลาก 3805583   จากกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด ธนาคารจึงประกาศแจกเงินรางวัลอีก 80 ล้านบาท สำหรับผู้โชคดีที่ฝากสลากออมสินพิเศษ 2 ปี รอบใหม่ กำหนดจับรางวัลวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 โดยแบ่งเป็นเงินรางวัลพิเศษ จำนวนเงิน 50 ล้านบาท รางวัลที่ 1 มูลค่า 30 ล้านบาท เริ่มฝากได้ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2566 -31 มกราคม 2567 เมื่อฝากครบระยะเวลา 2 ปี เงินต้นอยู่ครบพร้อมได้ดอกเบี้ยอีก 1.20 บาทต่อหน่วย รวมถึงยังมีสิทธิ์ลุ้นถูกรางวัลอื่น ๆ อีก 24 ครั้ง นอกจากนี้ ดอกเบี้ยและเงินรางวัลที่ได้รับ ไม่ต้องเสียภาษี.  

02 Dec 2023

Banner Banner Banner

Banner
    ปี 2566 “ประกันภัย-การเงิน-สินเชื่อ” ยังคงมาแรง ธุรกิจที่ยังต้องรอรัฐบาลฟื้นฟู “ขายตรง-อสังหาฯ-SME”    หลังจากที่ประเทศไทยเริ่มผ่อนคลายจากไวรัสโควิด-19 ในปี 2566 ธุรกิจประกันภัย-การเงิน-สินเชื่อ ยังคงเป็นธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่องในปี 2566 เพราะในช่วงวิกฤตโควิด ธุรกิจทั้ง 3 สาขาแม้จะได้รับผลกระทบ แต่ก็ยังยืนยงอยู่รอดปลอดภัย และเป็นธุรกิจที่ยังน่าสนใจลงทุนเป็นอันดับต้น ๆ ของธุรกิจในประเทศไทย และในต่างประเทศ ตราบใดที่ระบบสาธารณสุข และรัฐสวัสดิการของประเทศไทย ยังเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้  ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในสองสิ่งนี้ การประกันชีวิตและการประกันภัยจึงยังเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมากสำหรับคนไทย ที่อยากซื้อความคุ้มครองซื้ออนาคต และอยากมีสวัสดิการที่ขาดหายไปจากภาครัฐ ส่วนธุรกิจการเงินและธุรกิจสินเชื่อนั้น นับวันจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ตราบใดที่ประเทศไทยยังอยู่กับคำว่า “รวยเป็นกระจุก จนเป็นกระจาย” คนไทยยังต้องหวังพึ่งพาเงินในอนาคต เพื่อมาอุปโภคบริโภค ตราบนั้นทั้งธุรกิจการเงิน และสินเชื่อ ก็ยิ่งจะมีความสำคัญ เป็นธุรกิจที่เล็งเห็นกำไรและการเติบโต และน่าลงทุนมากขึ้นตามไปด้วย นี่คือธุรกิจยอดเยี่ยมในปี 2566 ที่ผมขอยกให้เป็นธุรกิจที่น่าลงทุน และน่าเข้าไปเกี่ยวข้อง สำหรับธุรกิจที่ยังต้องเร่งฟื้นฟู คือ ธุรกิจขายตรง ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจSME ที่ยังคงสะบักสะบอมมาตั้งแต่ก่อนยุคโควิด-19 มาถึงวันนี้ก็ยังนิ่ง ๆ อยู่ ก็คงต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาบูรณะ คงต้องรอดูฝีมือของทีมงานเศรษฐกิจชุดใหม่ ที่ต้องทำงานได้ดีกว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันหลายเท่าตัวในการกอบกู้ธุรกิจไทย  และ 3 สาขาธุรกิจที่ยังคงรอให้รัฐบาลชุดใหม่มาเร่งฟื้นฟูในปี 2566 นี้  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner