Responsive image

Saturday, 27 Jul 2024

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


กรุงเทพประกันภัย ประกาศแผนปี 2567 ตั้งเป้าเบี้ยฯ 32,500 ล้านบาท เติบโต 8% พร้อมนำหุ้น BKIH เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มความคล่องตัวขยายการลงทุนในธุรกิจ

Tue 09/04/2567


(ภาพจากซ้าย)  คุณชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ ,  ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI


กรุงเทพประกันภัย ต่อยอดความสำเร็จพร้อมขยายสู่โอกาสใหม่ ประกาศแผนปี 2567 ตั้งเป้าเบี้ยฯ 32,500 ล้านบาท มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าใจไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ สู่การฟื้นฟูยกระดับสร้างมูลค่าเพิ่มให้องค์กรเติบโตแข็งแกร่งมากกว่าเดิม พร้อมนำหุ้น BKIH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทนที่หุ้นของกรุงเทพประกันภัย ประมาณช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2567 โดยถือเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มความคล่องตัวในการขยายการลงทุนในธุรกิจ

 

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2566 ว่า บริษัทฯ สามารถสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวมได้ถึง 29,915.7 ล้านบาท เติบโตจากปี 2565 ร้อยละ 12.1 มีกำไรจากการรับประกันภัย 2,070.1 ล้านบาท มีรายได้สุทธิจากการลงทุน 1,299.5 ล้านบาท และบริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,043.8 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 5.50 บาท รวมทั้งปี 16.75 บาท พร้อมยืนหยัดความแข็งแกร่งทางด้านการเงินด้วยการมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) สูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยอยู่ที่ร้อยละ 185.9 (ณ 30 ก.ย. 66) และรักษาอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับสูงหรือ Credit Rating A- (Stable) (ณ พ.ย. 66) โดย Standard & Poor’s (S&P) สถาบันการจัดอันดับทางการเงินชั้นนำของโลก

สำหรับแนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2567 สมาคมประกันวินาศภัยไทยประเมินว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 5.0 - 6.0 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยได้รับผลบวกจากประกันภัยสุขภาพที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ขณะเดียวกันด้านตลาดที่อยู่อาศัยแม้จะได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนและอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูงจนส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ด้วยต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้นผนวกกับผู้ประกอบการได้เปิดโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้สูงมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีอัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อน้อยกว่า ทำให้มูลค่าที่อยู่อาศัยต่อหน่วยที่เข้าสู่ระบบประกันภัยปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลบวกต่อเนื่องไปยังเบี้ยประกันอัคคีภัย สำหรับประกันภัยรถยนต์นั้น แม้ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่โดยรวมจะมีแนวโน้มหดตัวลงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว แต่ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle: EV) คาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งรถยนต์ EV มีอัตราเบี้ยประกันภัยโดยเฉลี่ยที่สูงกว่ารถยนต์ใช้เชื้อเพลิง ส่งผลให้ปริมาณเบี้ยประกันภัยรถยนต์โดยรวมน่าจะยังคงเติบโตได้

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจประกันวินาศภัยจะได้รับผลกระทบจากมูลค่าการลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะหดตัวลงอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา จากความล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 เช่นเดียวกับผลกระทบจากสงครามและความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ยืดเยื้อ ซึ่งจะส่งผลต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าที่อาจไม่สามารถเติบโตได้เท่าที่ควร จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในการขนส่งสินค้าทางเรือที่ต้องใช้ระยะเวลายาวนานขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางเสี่ยงภัย รวมถึงปัญหา Supply Chain Disruption ที่กระทบต่อการผลิตเพื่อการส่งออก

นอกจากนี้ ธุรกิจประกันวินาศภัยจะยังคงได้รับประโยชน์จากการที่ตลาดรับประกันภัยต่อโดยรวมมีการปรับอัตราเบี้ยประกันภัยขึ้น แม้จะเป็นการเพิ่มในอัตราที่ลดลงจากปีที่ผ่านมา และจะยังคงมีแรงกดดันจากภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงและมีความถี่สูงขึ้นจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Climate Change) โดยเฉพาะภัยจากพายุฝนและน้ำท่วม ตลอดจนต้นทุนการชดใช้ค่าสินไหมทดเเทนที่ยังคงปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ตลาดเริ่มเห็นสัญญาณของอัตราเบี้ยประกันภัยที่คงที่หรือเริ่มลดลงในบาง Segment อันเป็นผลจากการที่ตลาดรับประกันภัยต่อมีกำไรจากการดำเนินงานที่ดีในปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีมหันตภัยขนาดใหญ่ที่ก่อให้เกิดค่าสินไหมทดแทนจำนวนมหาศาล รวมถึงการปรับเพิ่มอัตราเบี้ยประกันภัยต่อมาหลายปีติดต่อกัน

2024 Year of Transformation and Embracing Regenerative Approach towards Sustainability

หลังจากในปี 2566 เป็นปีแห่งการ Resilience พลิกฟื้นบริษัทฯ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้กลับไปสู่จุดที่แข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งกว่าเดิมในทุกมิติ ผ่านการปลูกฝัง Mindset แก่บุคลากรให้เรียนรู้จากวิกฤตเพื่อให้เกิดการพัฒนาและปรับตัวให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงสร้างจิตสำนึกความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว จนทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างเบี้ยประกันภัยและผลกำไรให้เติบโตได้อย่างโดดเด่นเป็นประวัติการณ์ 

โดยในปี 2567 บริษัทฯ ได้พัฒนาต่อยอดสู่การเป็นปีแห่ง Regenerative ซึ่งหมายถึง การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทุกกิจกรรมในห่วงโซ่คุณค่าที่บริษัทฯ จะส่งมอบให้แก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม รวมถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมได้รับผลกระทบเชิงบวกจากผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ของบริษัทฯ เพิ่มเติมจากคุณค่าที่เคยได้รับ ซึ่งผลกระทบเชิงบวกนั้นจะช่วยชดเชย ซ่อมเสริม หรือพลิกฟื้นสิ่งที่เคยสูญเสีย หรือบกพร่องให้กลับสู่สภาพปกติ ไม่ว่าจะเป็นด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ หรือคุณภาพชีวิต ซึ่งผลลัพธ์ที่คาดหวังนั้น นอกจากจะเป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการบริการที่เหนือความคาดหวัง สามารถตอบโจทย์ทุก Pain Point ของลูกค้าและคู่ค้า ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ สามารถรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจประกันวินาศภัยแล้ว ยังช่วยสร้างความยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ ตลอดจนสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกันอีกด้วย

 

ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน 


สำหรับทิศทางการดำเนินงานในปี 2567 นี้ กรุงเทพประกันภัยได้ตั้งเป้าหมายด้วยเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 32,500 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 8.0 แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ 13,690 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์หรือ Non-Motor 18,810 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด พร้อมยกระดับนวัตกรรมการบริการให้ดียิ่งขึ้น นำมาซึ่งการสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าและคู่ค้า

พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงและเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่

สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ๆ เพื่อรองรับโครงสร้างประชากรไทยและวิถีชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับความเสี่ยงต่างๆ ในรูปแบบ Personalized Insurance พร้อมส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดี และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า

  • ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 อุ่นใจวัยเก๋า

            พร้อมก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาแผนประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 อุ่นใจวัยเก๋า เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัย 55 - 75 ปี ที่ชื่นชอบขับรถด้วยตนเอง  ซึ่งนอกจากจะได้รับความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แล้ว ยังเพิ่มเติมความคุ้มครองอื่นๆ ได้อย่างครอบคลุม รองรับกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อมอบความอุ่นใจให้ผู้สูงวัยในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดจนต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล อาทิ เงินชดเชยกายภาพบำบัด เงินชดเชยค่าเวชภัณฑ์คงทนใช้ภายนอกร่างกาย (เวชภัณฑ์ 2) ที่จำเป็นต้องใช้หลังเกิดอุบัติเหตุ เช่น ไม้เท้า ไม้ค้ำยัน รถเข็นผู้ป่วย เฝือกพยุงคอ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีบริการ Nursing Care Service at Home ด้วยการมีบุคลากรทางการแพทย์มาดูแลลูกค้าถึงบ้านอีกด้วย

  • ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 เพิ่มความคุ้มครองสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) โดยไม่เพิ่มเบี้ยประกันภัย

ด้วยเทรนด์ Pet Humanization ที่กำลังมาแรง ประชาชนให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสัตว์เสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวที่ต้องทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันมากขึ้น กรุงเทพประกันภัยเข้าใจในความต้องการของลูกค้า จึงมอบสิทธิพิเศษให้แก่ผู้เอาประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1 ทุกแผนประกันภัย ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าที่ต่ออายุ ด้วยความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) ที่อยู่ภายในรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการชน 10,000 บาท/ตัว/ครั้ง และกรณีเสียชีวิตจะได้รับความคุ้มครอง 10,000 บาท/ตัว/ครั้ง โดยไม่ต้องเสียค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่มแต่อย่างใด

  • ประกันภัยสุขภาพ (เพิ่มความคุ้มครองจิตเวช)

ท่ามกลางสภาวะทางสังคมที่ไม่แน่นอน เปราะบาง และมีแรงกดดันมากขึ้น บริษัทฯ จึงมุ่งให้ความสำคัญกับเรื่องจิตใจของผู้คนในสังคม ผ่านแผนประกันภัยสุขภาพที่มอบความคุ้มครองทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยจะมีการเพิ่มความคุ้มครอง เช่น การตรวจรักษาอาการหรือโรคที่เกี่ยวเนื่องกับภาวะทางจิตใจ (Mental Health) การดูแลโดยพยาบาลเฝ้าไข้พิเศษ การรักษาโดยแพทย์ทางเลือก การตรวจสุขภาพ เงินชดเชยรายวันระหว่างการเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล อันเนื่องมาจากการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย โดยมีแผนประกันภัยให้ลูกค้าเลือกตามความเหมาะสม ทุนประกันภัยตั้งแต่ 300,000 - 1,000,000 บาท รับประกันภัยอายุ 16 - 70 ปี และสามารถต่ออายุได้ถึง 80 ปี

 

(ภาพจากซ้าย)  คุณลสา โสภณพนิช , ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน , คุณปวีณา จูชวน 


      วิกฤตโควิด-19 เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่เร่งให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีทางการแพทย์ ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคพลิกโฉมไปอย่างรวดเร็ว บริการแพทย์ทางไกลในรูปแบบ Telemedicine จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ เตรียมนำเสนอแผนประกันภัยสุขภาพ สำหรับ Telemedicine ซึ่งจะเป็นการปรึกษาแพทย์ทางออนไลน์ ผ่านแอปพลิเคชัน Clicknic ที่รองรับถึง 55 อาการของโรคที่สามารถรับคำปรึกษาจากแพทย์ทางไกลได้ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย มีไข้ เจ็บคอ ผื่นคัน ตาเจ็บ ฯลฯ พร้อมช่วยลดความกังวลด้วยบริการจัดส่งยาให้ถึงบ้านภายใน 1 ชั่วโมงสำหรับในเขตกรุงเทพฯ และเฟสถัดไปในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 นี้ บริษัทฯ จะยกระดับบริการด้าน Telemedicine ด้วยการขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมถึงบริการปรึกษาแพทย์ทางไกลสำหรับการตรวจรักษา อาการหรือโรคที่เกี่ยวเนื่องกับภาวะทางจิตใจ เพื่อรองรับสภาพแวดล้อมทางสังคมที่ทำให้ประชาชนต้องประสบกับภาวะความเครียด ซึ่งก่อให้เกิดโรคทั้งทางร่างกายและจิตใจ

  • ประกันภัยสำหรับคอนโด

            ด้วยรูปแบบวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง ผู้คนอยู่อาศัยภายในคอนโดมิเนียมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ  บริษัทฯ
จึงได้พัฒนาแผนประกันภัยที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ โดยกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับคอนโดให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สินภายในคอนโดมิเนียมอันมีสาเหตุจากไฟไหม้ ฟ้าผ่า ระเบิด ภัยเนื่องจากน้ำ ภัยจากลมพายุ ลูกเห็บ หรือน้ำท่วม รวมถึงคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกิดเหตุภายในคอนโดมิเนียม และกรณีความเสียหายจากการถูกโจรกรรมที่มีวงเงินความคุ้มครองตั้งแต่ 50,000 - 200,000 บาท เพื่อเพิ่มความสบายใจให้แก่ลูกค้า อีกทั้งยังครอบคลุมถึงความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอก เช่น กรณีน้ำรั่วซึมไปยังห้องอื่นๆ จนเกิดความเสียหาย ฯลฯ โดยเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 1,290 บาท

“แคร์คุณทุกย่างก้าว” ด้วยการให้บริการที่ใส่ใจ 

กรุงเทพประกันภัยมุ่งพัฒนานวัตกรรมการบริการที่เหนือความคาดหวัง สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย รวมทั้งดูแลเอาใจใส่ในทุกความต้องการของลูกค้า

  • ระบบติดตามสถานะการดำเนินงาน (Progress Tracking)

            ด้วยการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งเพื่อส่งมอบบริการที่มีคุณภาพ มุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดี รวดเร็วและเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบติดตามสถานะการดำเนินงาน (Progress Tracking) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าและคู่ค้าให้สามารถตรวจสอบสถานะในขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะครอบคลุมทั้งงานด้านรับประกันภัย การชำระเบี้ยประกันภัย และงานสินไหมทดแทน เช่น ตรวจสอบสถานะผลการตรวจสภาพรถยนต์ ขั้นตอนการจัดส่งกรมธรรม์ประกันภัย การชำระเบี้ยประกันภัย รวมไปถึงการตรวจสอบสถานะการเคลมสินไหมทดแทนว่าอยู่ในขั้นตอนใด เช่น  การรับเอกสารการเคลม การตรวจสอบเอกสารการเคลม การประเมินราคา การจัดซ่อม การส่งมอบรถ การอนุมัติค่าสินไหมทดแทน และการโอนค่าสินไหมทดแทน เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะด้านสินไหมทดแทนยานยนต์ (Motor Claims) ได้โดยผ่านช่องทาง LINE @bangkokinsurance และลำดับถัดไปจะขยายช่องทางการให้บริการผ่าน Mobile Application และเพิ่มเติมบริการให้ครอบคลุมงานด้านรับประกันภัย งานสินไหมทดแทนทั่วไป (Non-Motor Claims) และทางด้านการเงิน ทั้งนี้ สำหรับตัวแทนและนายหน้าซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ สามารถตรวจสอบสถานะดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วผ่านช่องทาง Web Partner           

 

เพิ่มศักยภาพเทคโนโลยี ก้าวทันโลกดิจิทัล
            กรุงเทพประกันภัยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อต่อยอดสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการที่ก้าวทันกับความต้องการตามเทรนด์ของลูกค้ายุคใหม่  

  • AI Outbound Voice Chatbot

            จากความใส่ใจและคำนึงถึงลูกค้าในทุกๆ ด้าน นำมาสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) มาใช้ในการแจ้งเตือนการต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่ลูกค้าทางโทรศัพท์ โดยระบบดังกล่าวจะสื่อสารกับลูกค้าด้วยน้ำเสียงเสมือนจริง ที่มากับความพร้อมในการตอบคำถามและให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัยของลูกค้า รวมถึงช่องทางการชำระเงินหรือเรื่องอื่นๆ ทั้งนี้ การนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในเรื่องดังกล่าว นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการต่ออายุเพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังส่งเสริมให้บริษัทฯ เพิ่มศักยภาพในการทำงานจากการที่ AI สามารถจัดสรรงานให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยดูแลลูกค้าที่ต้องการรับบริการด้านอื่นๆ ได้อีกด้วย โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการดังกล่าวได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

            ด้วยความมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็วและฉับไว พร้อมสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า บริษัทฯ จึงได้นำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างตรงใจมากยิ่งขึ้น ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลจากการติดต่อของลูกค้าในช่องทางต่างๆ ทั้งทางโทรศัพท์และสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าและประมวลผลออกมาเป็นประเภทหมวดหมู่อย่างชัดเจน เช่น การติดตามงานด้านรับประกันภัย งานด้านสินไหมทดแทน การชำระเงิน ข้อเสนอแนะเชิงบวกและเชิงลบ ตลอดจนข้อร้องเรียนต่างๆ ซึ่งระบบ Cognitive Customer Portal จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทั้งด้านพฤติกรรมและประสบการณ์การใช้งาน นอกจากนี้ ยังสามารถเรียกดูข้อมูลเชิงสถิติในรูปแบบ Dashboard เพื่อการติดตามผล สรุปปัญหาต่างๆ ที่ต้องนำมาปรับปรุง พัฒนา และแก้ไขให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าต่อไป

 

BKIH การเปลี่ยนแปลงกับโอกาสครั้งสำคัญ

            กรุงเทพประกันภัยเดินหน้าเข้าสู่ก้าวใหม่ หลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติแผนการปรับโครงสร้างบริษัทฯ ผ่านการจัดตั้งบริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH เมื่อช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ให้มีการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) โดยบริษัทฯ ได้กำหนดระยะเวลาในการแลกเปลี่ยนหุ้น “BKI” เป็นหุ้น “BKIH” ในช่วงระหว่างวันที่ 25 มีนาคม – 5 มิถุนายน 2567 รวมทั้งสิ้น 45 วันทำการ จากนั้นจะนำหุ้น BKIH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแทนที่หุ้นของกรุงเทพประกันภัย ประมาณช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2567 โดยถือเป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญในการปรับโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มความคล่องตัวในการขยายการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายและมีศักยภาพต่อยอดสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน

 

คุณชัย โสภณพนิช


 

ธุรกิจประกันภัยที่ร่วมสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน

บริษัทฯ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคมควบคู่กับการสร้างการเติบโตด้วยผลการดำเนินงานที่ดี เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ “มุ่งเป็นที่สุดในใจลูกค้า” ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และกระบวนการดำเนินธุรกิจที่สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า โดยยึดมั่นในแนวทางการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านการกำหนดกลยุทธ์และกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ของบริษัทฯ ให้ดำเนินไปอย่างสอดคล้องและเกื้อหนุนกัน อาทิ งานด้านการรับประกันภัยและงานด้านสินไหมทดแทนที่มีส่วนในการส่งเสริมให้ผู้เอาประกันภัยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เช่น การออกกรมธรรม์ประกันภัยบ้านอยู่อาศัย Green Guarantee การเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าบริจาคเงินให้องค์กรการกุศลแทนการรับของสมนาคุณ​ กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและประกันภัยสุขภาพที่หักค่าเบี้ยประกันภัยส่วนหนึ่ง​ให้แก่องค์กรการกุศล รวมถึงการสนับสนุนธุรกิจรายย่อยให้มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ​ผ่านการขยายระยะเวลาการชำระเบี้ยประกันภัยของลูกค้า SMEs​ จากเดิม 30 วัน เป็น 60 วัน​ เป็นต้น ตลอดจนส่งเสริมกระบวนการดำเนินธุรกิจต่างๆ ภายในบริษัทฯ ให้มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

ในปี 2567 นี้ นับเป็นอีกปีเเห่งโอกาสครั้งสำคัญที่จะต่อยอดความสำเร็จ พร้อมขยายธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงกับสภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม และความท้าทายของโลกยุคใหม่ ผ่านการฟื้นฟูยกระดับการสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่าให้องค์กรเติบโตแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อมุ่งสู่ความมั่นคงอย่างยั่งยืนต่อไป


Tags : กรุงเทพประกันภัย ฺBKI BKIH ชัยโสภณพนิช ดร.อภิสิทธิ์อนันตนาถรัตน แผนงานกรุงเทพประกันภัยปี2567 แนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยในปี2567


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน มอบรางวัลทองคำแท่งหนัก 10 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 26.5 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 23 เมษายน 2567) ให้แก่ คุณกานดา กาญจนเพิ่มพูน ลูกค้าธนาคารออมสิน สาขาด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี โดยเป็นผู้โชคดีจากการถูกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 1 ปี งวดที่ 606 หมวดอักษร G หมายเลขสลาก 8178397 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 111 ปี ซึ่งมีการออกรางวัลไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยคุณกานดา เป็นลูกค้าธนาคารออมสิน และมีการออมเงินกับธนาคารมาอย่างต่อเนื่อง แต่ได้มีการฝากสลากออมสินเพียง 4 ปี หลังทราบข่าวว่ามีการลุ้นรางวัลใหญ่ และเป็นการเก็บออมเงินด้วย จึงอยากเชิญชวนประชาชนให้มาออมเงินด้วยการฝากสลากออมสิน     นอกจากจะได้ลุ้นรางวัลแล้ว การเป็นลูกค้าธนาคารออมสินเท่ากับเราได้ช่วยสังคม ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 สำหรับสลากออมสินพิเศษ 1 ปี หน่วยละ 100 บาท ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด เมื่อฝากครบกำหนด 1 ปี จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 0.25 บาท และยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ ได้ทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน รวม 12 ครั้ง ผู้สนใจสามารถฝากสลากออมสินได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และแอป MyMo  

26 Jul 2024

...

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่สมัครและชำระค่าเบี้ยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบรายปีในปีแรก ตามแผนประกันที่เข้าร่วมรายการ ของ บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ผ่านสาขาธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 – 30 กันยายน 2567 และคำขอเอาประกันได้รับการอนุมัติภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2567 จะได้รับเงินคืนเข้าบัญชีออมทรัพย์ ตามรายละเอียดดังนี้   เบี้ยประกันชีวิต (บาท) ต่อ 1 กรมธรรม์ เงินคืนตามแผนประกัน (บาท) ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ร่วมรายการ ผลิตภัณฑ์ประกัน* 20/5(+), 20/10(+), 18/5, 90/5, 90/10 8,000 - 99,999 300 300 100,000 – 399,999 1,000 1,500 400,000 – 699,999 5,000 15,000 700,000 – 999,999 10,000 20,000 ทุก ๆ 1,000,000 25,000 50,000   นอกจากนี้ ยังจะได้รับสถานะ KRUNGSRI EXCLUSIVE หรือ KRUNGSRI PRIME เมื่อสมัครและชำระเบี้ยประกันชีวิตปีแรกตั้งแต่ 2 แสนบาทขึ้นไป โดยมีรายละเอียดดังนี้ -รับสถานะ KRUNGSRI EXCLUSIVE เป็นระยะเวลา 3 ปี พร้อมรับเอกสิทธิ์เทียบเท่าลูกค้ายอดเงินฝาก และ/หรือเงินลงทุนตั้งแต่ 10 ล้านบาท เมื่อสมัครและชำระเบี้ยประกันชีวิตปีแรก ตั้งแต่ 500,000 บาทขึ้นไป ภายในปีปฏิทินเดียวกัน และภายใต้ชื่อผู้เอาประกันภัยเดียวกัน -หรือรับสถานะ KRUNGSRI PRIME เป็นระยะเวลา 3 ปี พร้อมรับเอกสิทธิ์เทียบเท่าลูกค้ายอดเงินฝาก และ/หรือเงินลงทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาท เมื่อสมัครและชำระเบี้ยประกันชีวิตปีแรก ตั้งแต่ 2 แสนบาทแต่ไม่ถึง 5 แสนบาท ภายใต้ชื่อผู้เอาประกันภัยเดียวกันและกรมธรรม์เดียวกัน              

14 Jul 2024

...

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากปัญหาภัยทุจริตทางการเงินที่มีประชาชนได้รับความเสียหายจากการถูกมิจฉาชีพหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันและถูกดูดเงินออกจากบัญชีธนาคาร ทำให้ต้องสูญเสียทรัพย์โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แม้ธนาคารและหน่วยงานต่าง ๆ ได้มีการเตือนภัยประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อช่วยลูกค้าประชาชนลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวงเมื่อทำธุรกรรมผ่านบริการทางการเงินดิจิทัล ธนาคารออมสินจึงได้ยกระดับความปลอดภัยของบริการ Mobile Banking โดยการเพิ่มโหมดบริการ MyMo Secure+ ที่จำกัดการทำธุรกรรมเฉพาะบัญชีของตนเองเท่านั้น กรณีมือถือโดนแฮก หรือโดนควบคุมมือถือผ่านรีโมท มิจฉาชีพก็จะไม่สามารถโอนเงินของเราไปยังบัญชีอื่น หรือบัญชีบุคคลที่ 3 ได้ ถือเป็นการจำกัดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ซึ่งธนาคารออมสินเป็นธนาคารแรกที่ริเริ่มติดตั้งโหมดปลอดมิจฉาชีพสำหรับให้บริการลูกค้าบนแอปพลิเคชัน MyMo Secure+ หรือ MyMo Secure Plus เป็นโหมดบริการบนแอป MyMo ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ง่าย ๆ และปลอดภัยมากขึ้น เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่อาจตกเป็นเหยื่อภัยทางการเงินได้ง่าย อาทิ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพ โดยเมื่อลูกค้าเปลี่ยนมาใช้โหมดบริการ MyMo Secure+ จะสามารถใช้บริการที่เน้นการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบัญชีของตนเองเท่านั้น โดยจำกัดการทำรายการเฉพาะเท่าที่จำเป็น เช่น การโอนเงินไปยังบัญชีตนเองภายในธนาคาร การโอนเงินไปบัญชีต่างธนาคารที่ได้ลงทะเบียนไว้ บัญชีสินเชื่อของตนเอง การชำระค่าสาธารณูปโภค รวมถึงจำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมบัญชีตนเองต่างธนาคาร ไม่เกิน 100,000 บาทต่อวัน หรือถอนเงินไม่เกิน 5,000 บาทต่อวัน เป็นต้น โดยลูกค้าเดิมที่ใช้แอป MyMo อยู่แล้ว สามารถเปลี่ยนโหมดเป็น MyMo Secure+ ได้ด้วยตนเองโดยกดที่ปุ่ม MyMo Secure+ มุมขวาบน หรือจากแบนเนอร์หน้าโฮม หรือจากแถบตั้งค่า และเมื่อกดสมัครใช้งานแล้ว จะต้องยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขการให้บริการ หรือการเปลี่ยนโหมด และมีการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า จึงสมัครใช้บริการสำเร็จ กรณีลูกค้าต้องการเปลี่ยนกลับไปใช้แอป MyMo รูปแบบทั่วไป สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา อนึ่ง การยกระดับแอป MyMo ให้มีโหมดความปลอดภัย เป็นการดำเนินงานโดยสอดคล้องกับมาตรการธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน โดยขอความร่วมมือธนาคารต่าง ๆ ในการป้องกันความเสียหาย และมีผลิตภัณฑ์หรือบริการเพิ่มเติมเพื่อดูแลธุรกรรมของลูกค้าให้ปลอดภัยขึ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงและลดปัญหาการถูกหลอกลวงออนไลน์ โดยธนาคารออมสิน ได้ให้ความสำคัญในมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของระบบการให้บริการที่ถือเป็นหัวใจหลักของการให้บริการ Mobile Banking มาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล ด้านการบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO/IEC 27001 ในเวอร์ชัน ISO/IEC 27001:2022 (Information Security Management System : ISMS) ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน          

07 Jul 2024

...

อลิอันซ์ อยุธยา ร่วมกับ เรซอัพ เวิร์ค ประกาศความพร้อมเตรียมจัดงานวิ่งแห่งปีที่ทุกคนรอคอย Allianz Ayudhya World Run Thailand Series 2024 ภายใต้แนวคิด “World Run World Heritage” งานวิ่งของคนรักษ์โลก “อนุรักษ์มรดกไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” เชิญชวนนักวิ่ง วิ่งย้อนรอยประวัติศาสตร์ ในบรรยากาศสุดคลาสสิก ชิมอาหารเลิศรส และช้อปสินค้าท้องถิ่น วันที่ 16-17 พฤศจิกายน 2567 ณ ศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา(ศาลากลางเก่า) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา   นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารงานลูกค้า บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า “งาน “Allianz Ayudhya World Run Thailand Series 2024” ถือเป็นงานวิ่งที่แฟนรายการ Allianz World Run ทุกคนต่างรอคอย เพราะเป็นงานวิ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในการคัดเลือกเส้นทางวิ่งท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศดี วิ่งสนุก เดินทางสะดวก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญยังได้สนับสนุนสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นต่างๆของไทยอีกด้วย ในปีนี้ก็เช่นกัน อลิอันซ์ อยุธยา ได้คัดสรรพื้นที่สุดพิเศษในการจัดงาน โดยได้เปลี่ยนบรรยากาศการวิ่งเข้ามาในพื้นที่ประวัติศาสตร์สำคัญของไทย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ผู้ร่วมงานได้มีโอกาสชมเส้นทางประวัติศาสตร์ ผ่านจุดสำคัญของเมืองเก่าอยุธยา และพิเศษสุดปีนี้ เราได้เพิ่มระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อให้นักวิ่งหน้าใหม่ที่อาจจะเพิ่งเริ่มวิ่ง ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย ถือเป็นการเริ่มต้นออกกำลังกายไปด้วยกัน ที่จะได้ทั้งความสุขและสุขภาพที่ดีกลับไป สำหรับงาน “Allianz Ayudhya World Run Thailand Series 2024” จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 16 และวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 โดยแบ่งระยะการแข่งขันเป็น 4 ประเภท ได้แก่ แฟมิลี่ฟันรัน 3 กิโลเมตร ในวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน 2567 ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร มินิมาราธอน 10 กิโลเมตร และระยะทาง 5 กิโลเมตร ในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 นอกจากนี้ภายในงานยังมีโซน Expo อิ่มอร่อยกับอาหาร Local สุดอร่อย และสินค้าจากชุมชน ให้ได้เลือกช้อป พร้อมชมมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินยอดนิยม  บริเวณลานกิจกรรมหน้าศาลากลางเก่า สำหรับงานวิ่งนี้ยังคงเป็นงานวิ่งรักษ์โลก โดยเหรียญและโล่รางวัลทำมาจาพลาสติกรีไซเคิล เหมือนเช่นเคย นอกจากนี้เรายังได้เตรียมของที่ระลึกสุดพิเศษ สำหรับ Finisher อีกด้วย” คุณพัชรา กล่าวทิ้งท้าย Allianz Ayudhya World Run Thailand Series 2024 เปิดจำหน่ายบัตรราคา Ealry bird ตั้งแต่วันนี้ – 10 กรกฎาคม 2567 ในราคา 850 บาท สำหรับ การวิ่งฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร ราคา 650 บาท สำหรับ การวิ่งมินิมาราธอน 10 กิโลเมตร 600 บาท สำหรับ 5 กิโลเมตร พิเศษ! สำหรับนักวิ่งแฟนพันธุ์แท้ ที่เคยร่วมวิ่งกับ Allianz World Run ในระยะ 10 กิโลเมตร และ 21.1 กิโลเมตร รับส่วนลดon top เพิ่มอีก 50 บาท หากคุณเป็นผู้รักสุขภาพ รักการวิ่ง อย่ารอช้า ข้อมูลเพิ่มเติมและสมัครวิ่งได้ที่ https://race.thai.run/worldrun2024 และสนใจติดตามรายละเอียดงานทั้งหมดได้ที่ Facebook: Worldrun Thailand

05 Jul 2024

Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner