Responsive image

Wednesday, 22 Jan 2025

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


คปภ. ร่วมประชุมวิชาการ “ชวนหมอรู้” จับมือภาคธุรกิจประกันภัย ยกระดับประกันสุขภาพเอกชน สู่สังคมและสุขภาพของไทยอย่างยั่งยืน

Sun 12/01/2568


เมื่อวันพุธที่ 8 มกราคม 2568 นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เข้าร่วมเสวนาวิชาการในหัวข้อ “บทบาทของการประกันสุขภาพเอกชนในการส่งเสริมความยั่งยืนของระบบสังคมและสุขภาพในประเทศไทย” จัดโดยสถาบันมหิตลาธิเบศรและสถาบันพระปกเกล้า ณ ห้องประชุมวชิรเวช ชั้น 14 อาคารมหิตลาธิเบศร แพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข โดยมีนายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมเสวนา และมีนายแพทย์ภาสกร วันชัยจิระบุญ เป็นผู้ดำเนินรายการ

 

เลขาธิการ คปภ. ได้ให้ข้อมูลภาพรวมและแนวโน้มของการประกันภัยสุขภาพในประเทศไทย มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยมีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้โดยไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูง นอกจากนี้ยังมีระบบประกันสังคมสำหรับพนักงานบริษัท และระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ซึ่งทั้ง 3 ระบบนี้ทำให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองด้านสุขภาพอย่างครอบคลุม อย่างไรก็ตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และการแพร่ระบาดของโรคใหม่ ซึ่งส่งผลให้ระบบการประกันภัยสุขภาพภาคสมัครใจมีบทบาทสำคัญในการช่วยประชาชนเข้าถึงบริการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จากข้อมูลสถิติพบว่าเบี้ยประกันภัยสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องอย่างมีนัยยะสำคัญ แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความต้องการสุขภาพเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากค่าใช้จ่ายสุขภาพสูงขึ้นมีความเสี่ยงด้านสุขภาพเพิ่ม ลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายจากการเจ็บป่วย และมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี จึงส่งผลให้ประชาชนมีความต้องการในการทำประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ได้มีดำเนินการเพื่อควบคุมค่าเบี้ยประกันภัยสุขภาพที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อทางการแพทย์ ได้แก่ การพัฒนา “มาตรฐานประกันสุขภาพแบบใหม่ หรือ New Health Standard” ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ที่ได้กำหนดให้บริษัทประกันภัยสามารถบริหารความเสี่ยงโดยมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาให้ผู้เอาประกันภัยมีส่วนร่วมจ่าย (Copayment) ในเงื่อนไขการต่ออายุสัญญา โดยเฉพาะกรณีการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลที่เกินความจำเป็นทางการแพทย์ด้วย โรคป่วยเล็กน้อยทั่วไป (Simple Disease) ซึ่งจะช่วยให้บริษัทประกันภัยสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น แม้ว่าการเพิ่มความคุ้มครองและการรับประกันในปีถัดไปจะส่งผลให้เบี้ยประกันภัยสุขภาพเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม

 

อีกทั้งสำนักงาน คปภ. ยังสนับสนุนให้บริษัทประกันภัยนำเทคโนโลยีมาใช้ในการลดต้นทุน เช่น การสนับสนุนการรักษาผ่านระบบ Telemedicine หรือนำเทคโนโลยี AI และ Big Data ช่วยประเมินความเสี่ยงและตรวจจับการเรียกร้อง
ค่าสินไหมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีการกำหนดแผนประกันภัยสุขภาพที่ตอบโจทย์คนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และมีการบริหารความเสี่ยงของการประกันภัยสุขภาพให้มีความเหมาะสม เป็นธรรม และยั่งยืน พร้อมกันนี้สำนักงาน คปภ. ได้อยู่ระหว่างดำเนินการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำหนดแนวทางในการประสานสิทธิระหว่างประกันภัยสุขภาพ ภาคสมัครใจ กับสิทธิประกันสุขภาพ 3 ระบบหลักของไทย เพื่อให้มีแนวทางในการบูรณาการระบบประกันภัยสุขภาพ ภาคสมัครใจ ร่วมกับสวัสดิการภาครัฐ ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพการประกันภัยสุขภาพและสร้าง
ความเชื่อมั่นให้กับประชาชน

 

 

“สำนักงาน คปภ. มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมมือทางวิชาการกับทางแพทยสภาสถาบันมหิตลาธิเบศร โดยเริ่มจากงานประชุมวิชาการ “ชวนหมอรู้” เป็นการร่วมมือแรก ในเรื่องบทบาทของการประกันสุขภาพเอกชนในการสงเสริมความยั่งยืนของระบบสังคมและสุขภาพในประเทศไทย เพื่อให้เราได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า สำนักงาน คปภ. และภาคธุรกิจประกันภัยควรมีความพร้อมและรับมืออย่างไร นอกจากนี้ยังพร้อมที่จะสนับสนุนภาคธุรกิจประกันภัยในการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการประกันภัยสุขภาพ และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนอย่างต่อเนื่อง   เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น และสร้างระบบประกันภัยที่มีคุณภาพและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ซึ่งจะช่วยพัฒนาระบบประกันสุขภาพในประเทศไทยอย่างยั่งยืนและมีคุณภาพต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย   


Tags : คปภ. สำนักงาน คปภ. ชูฉัตร ประมูลผล ประชุมวิชาการชวนหมอรู้ ประกันสุขภาพเอกชน ประกันสุขภาพ ภาคธุรกิจประกันภัย


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดให้บริการโอนเงินต่างประเทศ ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile เพื่อให้ลูกค้าสามารถโอนเงินไปต่างประเทศให้บุตรหลาน ครอบครัว ตลอดจนชำระค่าสินค้าและบริการได้ด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile สะดวก รวดเร็ว เพียงเข้ารายการโอนเงินและเลือกโอนเงินต่างประเทศ โดยไม่ต้องเดินทางไปสาขา ครอบคลุมทั่วโลก รองรับ 3 สกุลเงิน ประกอบด้วย ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยูโร (EUR) และบาทไทย (THB)  (สำหรับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) วงเงินทำธุรกรรมไม่เกิน 150,000 บาทต่อรายการ และไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อวันต่อคน อัตราค่าธรรมเนียมและเวลาการให้บริการเป็นไปตามธนาคารกำหนด เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568  เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555

19 Jan 2025

...

  นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เป็นมาตรการช่วยลดภาระหนี้ เพิ่มสภาพคล่องให้ลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจ SMEs ที่ปกติมีวินัยดี แต่อาจเกิดเหตุจำเป็นในการประคับประคองชีวิตและธุรกิจ ทำให้ประสบปัญหาการผ่อนชำระ ซึ่งการเข้าร่วมโครงการฯ ดังกล่าว จะทำให้ลูกหนี้หมดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น และป้องกันไม่ให้ลูกหนี้เปลี่ยนสถานะเป็น NPLs ไม่สูญเสียทรัพย์สินที่เป็นหลักประกัน ธนาคารจึงขอเน้นย้ำให้ลูกหนี้สินเชื่อเคหะ สินเชื่อบ้านแลกเงิน หรือสินเชื่อ SMEs ที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 5 ล้านบาท และเป็นลูกหนี้ที่ค้างชำระไม่เกิน 1 ปี รักษาสิทธิประโยชน์ รีบตรวจสอบสิทธิ์และลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ที่เว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือที่แอปพลิเคชัน MyMo ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กำหนดลงทะเบียนวันสุดท้ายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ลงทะเบียนแล้ว ขอให้จัดทำสัญญาการเข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่แอป MyMo หรือ ติดต่อสาขาธนาคารออมสินที่ขอกู้ ได้ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568 เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ GSB Contact Center โทร. 1115 กด 99

16 Jan 2025

...

เต็มวงเงินแล้ว! ยอดฝากสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต ธ.ก.ส. ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจอย่างล้นหลามจนยอดฝากเต็ม 150,000 ล้านบาทแล้ว เตรียมพบกับการลุ้นโชคครั้งใหม่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมกับสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดหยกจักรพรรดิ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ที่มาพร้อมโอกาสลุ้นรางวัลใหญ่และผลตอบแทนสูง รอติดตามข่าวสารผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.baac.or.th Facebook : ธกส BAAC Thailand และ LINE OA : BAAC Family เร็ว ๆ นี้   นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ตามที่ ธ.ก.ส. ได้เปิดรับฝาก “สลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต” ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2567 ซึ่งได้รับความสนใจและกระแสตอบรับอย่างดีจากเกษตรกรลูกค้าและประชาชนทั่วไป ทำให้ล่าสุด ณ วันที่ 2 มกราคม 2568 มียอดรับฝากเต็มวงเงิน150,000 ล้านบาท จำนวน 300 ล้านหน่วย เรียบร้อยแล้ว ในโอกาสนี้ ธ.ก.ส. ขอขอบพระคุณลูกค้าผู้มีอุปการคุณทุกท่าน ที่ให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์สลากออมทรัพย์ของธนาคาร เพื่อนำไปใช้เป็นทุนในการสนับสนุนการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยและภาคีเครือข่ายผู้เป็นกำลังหลักสำคัญในการพัฒนาชุมชน เพื่อไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ สำหรับผู้ถือสลากออมทรัพย์ทวีสิน ชุดมรกต สามารถลุ้นรับรางวัลสูงสุด 20 ล้านบาท และติดตามการถ่ายทอดสดการออกสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. งวดต่อไปได้ในวันที่ 17 มกราคม 2568 และงวดต่อ ๆ ไป ในวันที่ 16 ของทุกเดือน ผ่านทางเว็บไซต์ www.baac.or.th Facebook Page : ธกส BAAC Thailand และ ธกส บริการด้วยใจและ Youtube “BAAC Thailand” โดยธนาคารจะโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่เป็นบัญชีคู่โอนของลูกค้าทันทีในวันถัดไปหลังจากวันออกรางวัลในแต่ละงวด   นายฉัตรชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและสานต่อการออมเงินอย่างต่อเนื่อง เตรียมพบกับความตื่นเต้นครั้งใหม่กับสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดหยกจักรพรรดิ ที่มาพร้อมโอกาสในการลุ้นโชคใหญ่และผลตอบแทนที่สูงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเดิม วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีเงินฝากและขึ้นทะเบียนสลากได้ที่เคาน์เตอร์ ธ.ก.ส กว่า 1,000 สาขาทั่วประเทศ พร้อมลงทะเบียนใช้งานแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ไว้ก่อน เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ที่สะดวกทุกที่ ทุกเวลา แล้วพบกับโอกาสแห่งความมั่งคั่งที่มาพร้อมผลตอบแทนที่น่าสนใจเร็วนี้ ๆ รอติดตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.baac.or.th Facebook : ธกส BAAC Thailand และ LINE Official : BAAC Family

09 Jan 2025

...

  บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ช่วยสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยให้ความคุ้มครองกรณีเข้ารักษาตัวแบบผู้ป่วยใน (IPD) สูงสุด 150,000 บาท และผู้ป่วยนอก (OPD) คุ้มครองสูงสุด 1,000 บาทต่อครั้ง และกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท (เบี้ยรักษาเท่ากันทุกช่วงอายุ) (ความคุ้มครองนี้เป็นไปตามเงื่อนไขกรมธรรม์) สำหรับรายละเอียดผลิตภัณฑ์หรือสนใจทำประกันภัยสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล สำหรับแรงงานต่างด้าว สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ทิพยประกันภัย โทร. 1736 หรือ บริษัท ทีเคอาร์โบรกเกอร์เรจ จำกัด โทร. 093-036-2459

03 Jan 2025

Banner
เอไอเอ ประเทศไทย ส่งแคมเปญ “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊ปเดียว” ให้คนไทยอุ่นใจหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ด้วยความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ทุกคนเลือกได้ เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำในตลาดประกันชีวิต สุขภาพ และโรคร้ายแรง ส่งแคมเปญ “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊บเดียว” โดยมาจากความเข้าใจในความต้องการและความรู้สึกของลูกค้าในเวลาที่ตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแบบไม่คาดคิด  ซึ่งมาพร้อมกับความ “ตกใจ” และ “กังวลใจ” ถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และภาระต่าง ๆ ที่ตามมา รวมถึงอนาคตของคนในครอบครัว เพราะปัจจุบันการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เนื่องมาจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ และความซับซ้อนของโรค เอไอเอ จึงมุ่งสนับสนุนให้ทุกคนตระหนักถึงความจำเป็นของการมีความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่เพียงพอและเหมาะสม เพื่อให้ชีวิตของทุกคนยังคงดำเนินต่อไปได้แบบไม่สะดุด พร้อมส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ นอกจากนี้ เอไอเอ ยังได้เปิดตัวหนังโฆษณา “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊บเดียว” ผ่านสตอรี่สุดฉีก จับโมเมนต์ร้อง ห๊ะ!!! ในวินาทีแรกเมื่อเจอโรคร้าย เผยความกังวลสุดฮิตให้พรั่งพรู ก่อนรีบคัทฟีลให้คุณสบายใจ…เพื่อบอกคนไทยว่า ความ “ตกใจ” เหล่านั้นจะอยู่กับคุณแค่ “แป๊บเดียว” หากมีประกันโรคร้ายแรงเอไอเอไว้ก่อน โดยสามารถรับชมหนังโฆษณาได้แล้ววันนี้ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งทีวี โรงภาพยนต์ และออนไลน์ของเอไอเอ ประเทศไทย ทั้ง AIA Official Facebook Page, AIA Thailand YouTube Channel และ Line Official Account สามารถคลิกลิงก์ https://youtu.be/mhxIKdZ5ECY เพื่อรับชม พิเศษยิ่งกว่าสำหรับแคมเปญ “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊บเดียว” ยังมีโปรโมชันและสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่สนใจซื้อประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567  โดยเอไอเอ ได้รวมแพ็กประกันโรคร้ายแรงตัวท็อป ถึง 10 แผนมาให้ลูกค้าได้เลือกให้ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น อาทิ ‘AIA CI Plus ประกันโรคร้ายแรง เจอ-จ่าย-จบ’ ที่ให้เงินก้อนไว้ใช้รักษา ‘AIA Multi-Pay CI Plus ประกันโรคร้ายแรง เจอ-จาย-หลายจบ’ ที่ให้เคลมได้รวมสูงสุดถึง 11 ครั้ง และ ‘AIA Care For Cancer ประกันชดเชยรายได้’ สำหรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทั้งนี้ ลูกค้ายังมีสิทธิพิเศษมากมาย เมื่อเข้าร่วมแคมเปญ ต่อที่หนึ่ง รับฟรีกระเป๋า AIA X ARTSTORY By Autistic Thai มูลค่า 250 บาท เมื่อมีเบี้ยประกันภัยรวมต่อปีขั้นต่ำ 25,000 บาท* และต่อที่สอง รับเพิ่มบัตรของขวัญ Lotus’s มูลค่า 1,000 บาท เมื่อมีเบี้ยประกันภัยรวมต่อปีขั้นต่ำ 55,000 บาท* และพิเศษถ้าซื้อประกันสุขภาพที่ร่วมโครงการฯ รับเพิ่มบัตรของขวัญ Lotus’s มูลค่าสูงสุด 1,000 บาทอีกด้วย เมื่อมีเบี้ยประกันภัยรวมขั้นต่ำ 25,000 บาท* ซึ่งทุกคนสามารถเข้าร่วมแคมเปญได้ง่าย ๆ เพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และซื้อประกันโรคร้ายแรงที่เข้าร่วมแคมเปญ** ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567 โดยสามารถศึกษารายละเอียดแคมเปญได้ที่เว็บไซต์ https://www.aia.co.th/th/events-promotions/promotions-rewards/dmtquarterly สนใจสามารถติดต่อตัวแทนเอไอเอ หรือ AIA Call Center 1581
อ่านต่อ...
Banner Banner Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner