นายวีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เผยความก้าวหน้าการดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม (Holistic Area-Based Community Development) โครงการที่ 2 ภายใต้ชื่อ “ลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา” ในพื้นที่เกาะลิบง จังหวัดตรัง ครบรอบ 1 ปี ของการดำเนินงาน มีการขยายเป้าหมายการพัฒนาจากเดิม 7 ด้าน เป็น 12 ด้าน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาและรองรับความต้องการที่จำเป็นของพื้นที่ และยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างรอบด้าน ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ทั้งในมิติของการดูแลตนเอง การดูแลชุมชน รวมไปถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมและเพิ่มโอกาสทางรายได้ ทั้งนี้ โครงการลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา เป็นการต่อยอดความสำเร็จงานพัฒนาชุมชนแบบองค์รวม โครงการที่ 1 “ออมสินฮ่วมใจ๋ฮักขุนน่าน” ที่การันตีความสำเร็จด้วยรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ปี 2567 (รางวัลการดำเนินงานอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมดีเด่น) โดยธนาคารกำหนดใช้แนวคิดนี้ในการทำงานพัฒนาชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อขยายผลการสร้าง Social Impact อย่างต่อเนื่อง
![]() |
![]() |
โครงการ “ลิบงสุขใจ ออมสินพัฒนา” ด้วยแนวคิด “ต้นแบบชุมชนคาร์บอนต่ำ” (Low Carbon Island) ตั้งเป้าหมายยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ และเศรษฐกิจเติบโตไปพร้อมกัน โดยวางแผนการพัฒนาครอบคลุม 12 ด้าน ประกอบด้วย 1) Low Carbon 2) ยกระดับการท่องเที่ยว 3) การจัดการน้ำ 4) การแพทย์และสาธารณสุข 5) ส่งเสริมอาชีพ/สร้างรายได้ 6) ส่งเสริมความรู้ทางการเงิน 7) ส่งเสริมการออมทรัพย์ 8) การสนับสนุนแหล่งเงินทุน 9) แก้ไขปัญหาหนี้สิน 10) สถานศึกษาและการเรียนรู้ 11) การทำนุบำรุงศาสนา และ 12) คุณภาพชีวิต เพื่อตอบโจทย์คนในชุมชนที่ปัจจุบันโครงสร้างประชากรส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้สูงวัย ให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ควบคู่กับการปลูกฝังจิตสำนึกส่งเสริมการดูแลรักษาถิ่นเกิด ทั้งการเข้าถึงบริการสุขภาพและสวัสดิภาพที่รวดเร็วขึ้น
![]() |
![]() |
การมีแหล่งน้ำที่มีคุณภาพและเพียงพอสำหรับใช้อุปโภคบริโภคตลอดปี ที่สำคัญคือการสร้างรายได้เพิ่มจากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งเกาะลิบงมีจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวที่ยังถูกหลงลืม แต่มีศักยภาพเพียงพอสำหรับการยกระดับรายได้ให้คนในชุมชนซึ่งทั้งเกาะเป็นวิถีชีวิตชาวมุสลิม และปรับปรุงมาตรฐานผู้ประกอบการโฮมสเตย์ ส่งเสริมการตลาดขยายการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ การสนับสนุนพลังงานทดแทนและการเพิ่มพื้นที่สีเขียว นอกจากนี้ ธนาคารได้ส่งเสริมให้ชุมชนมีการออมรูปแบบกลุ่ม อาทิ กลุ่มประมง กลุ่มเรือข้ามฟาก และกลุ่มรถซาเล้งโดยสาร รวมถึงส่งเสริมการออมเยาวชนกับธนาคารโรงเรียน เพื่อให้ชุมชนใส่ใจการออมและการบริหารจัดการเงินส่วนบุคคล
![]() |
![]() |
ปัจจุบัน โครงการมีความคืบหน้ามากกว่า 60% โดยการปฏิบัติงานนำโดยทีมงานของธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ ร่วมกับหน่วยพัฒนาสังคมและชุมชน สังกัดธนาคารออมสินภาค 17 หน่วยงานภาคีที่เข้าร่วมบูรณาการองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญการพัฒนาแต่ละด้าน อาทิ กรมการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยมหิดล มทร.ศรีวิชัย เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง สาธารณสุขจังหวัดตรัง OKMD และ UNICEF ผลงานความก้าวหน้าด้านที่สำคัญ เช่น การผลิตน้ำที่มีคุณภาพสำหรับอุปโภคบริโภคเปลี่ยนน้ำเค็มเป็นน้ำจืด การขุดเจาะบ่อบาดาลพร้อมถังเก็บน้ำสำหรับทั้งเกาะครอบคลุม 4 หมู่บ้าน การสนับสนุนเรือพยาบาลฉุกเฉิน “เรือออมสินชีพรักษ์” และสร้างหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินเพื่อให้บริการทางการแพทย์ได้ทันท่วงที การติดตั้งระบบพลังงานทดแทนโซล่าร์เซลล์ส่องสว่าง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 20% และผู้ประกอบการโฮมสเตย์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 34% ตลอดจนด้านสิ่งแวดล้อมที่อยู่ระหว่างวางแผนริเริ่มให้ชุมชนมีการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ การฟื้นฟูระบบนิเวศด้วยการปลูกหญ้าทะเล การปลูกป่าเพื่อขยายพื้นที่สีเขียว เป็นต้น โดยยังมีกิจกรรมการพัฒนาที่อยู่ระหว่างดำเนินการในระยะที่ 2 เพื่อขยายผลการพัฒนาสู่เป้าหมายระยะถัดไป ในการขับเคลื่อนสู่การเป็นชุมชนคาร์บอนต่ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ชาวเกาะลิบง จังหวัดตรัง สามารถพึ่งพาตนเองได้และมีคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนต่อไป