Responsive image

Thursday, 02 Jan 2025

หน้าแรก > ECONOMY-FINANCE/เศรษฐกิจ-การเงิน


GC จับมือ เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมกับภาครัฐ แถลงข่าวโครงการพักระยองอุ่นใจ รับฟรีความคุ้มครองโควิด-19 ท่องเที่ยวอย่างสบายใจในจังหวัดระยอง

Sat 01/08/2563


บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล  จำกัด  (มหาชน) หรือ GC ร่วมกับ  บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง  ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการพักระยองอุ่นใจ รับฟรีความคุ้มครองโควิด-19 เชิญชวนท่องเที่ยวจังหวัดระยอง โดย GC และเมืองไทยประกันชีวิต เตรียมพร้อมรับวันหยุดยาวปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ร่วมสนับสนุนการมอบความคุ้มครองโควิด-19 ให้ความมั่นใจนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในจังหวัดระยอง หลังจากการเฝ้าระวังไม่พบผู้ติดเชื้อครบ 14 วัน ตามเกณฑ์ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สำหรับ 50,000 ท่านแรกที่ลงทะเบียนและเข้าพักที่โรงแรม ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม 2563  ถึง 31 สิงหาคม 2563 โดยจะได้รับความคุ้มครอง 30 วันนับตั้งแต่วันที่เริ่มเข้าพักในโรงแรมวันแรก กรณีที่ผู้เอาประกันภัยตรวจพบเชื้อโควิด-19  และนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล จะได้รับความคุ้มครองเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท และคุ้มครองกรณีเสียชีวิต 50,000 บาท (ทุกกรณียกเว้นการฆ่าตัวตายหรือการถูกฆาตกรรมโดยผู้รับผลประโยชน์) 

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า “กระทรวงสาธารณสุข ได้หารือกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยนำเอาข้อเรียกร้องของพี่น้องประชาชน มาจัดทำมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ พร้อมเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาให้จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจและความเชื่อมั่นของประชาชนชาวระยอง โดยการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง ด้วยการส่งเสริมการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ชูอัตลักษณ์อันโดดเด่น พร้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีมากมายในจังหวัดระยองมาผสมผสานในรูปแบบ New Normal เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจังหวัดระยอง” 

นายพงษ์อนันต์ จันทร์ไพร ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดระยอง กล่าวว่า “จังหวัดระยองตระหนักถึงผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จึงได้เร่งจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวตามนโยบายของภาครัฐ ซึ่งจะมีการดำเนินการในรูปแบบ New Normal ซึ่งจังหวัดยังคงปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดฯ อย่างเข้มข้นตามที่เราเคยปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง โดยเราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรมที่เข้ามาร่วมผนึกกำลังในการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นร่วมกันเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง”

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ CEO ของ GC กล่าวว่า “จังหวัดระยองถือเป็นบ้านหลังที่สองของ GC โดยเป็นที่ตั้งสำนักงาน และโรงงาน รวมถึงมีพนักงาน GC และครอบครัวอาศัยอยู่ที่ระยองจำนวนมาก จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา GC เข้าช่วยเหลือบุคคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ทั่วประเทศไทยโดยทันทีและดำเนินการอย่างต่อเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์ของ GC ได้แก่ ชุดอุปกรณ์ป้องกัน PE Gown และอุปกรณ์ป้องกัน อาทิ เฟซชิลด์ (Face Shield) เจลแอลกอฮอล์ ฉากกั้นพลาสติกเพื่อลดการสัมผัสสร้างความปลอดภัย ฯลฯ รวมถึงการสนับสนุนบรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพย่อยสลายได้ตามธรรมชาติเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับภาคธุรกิจประเภทการสั่งอาหารออนไลน์ (Food Delivery) และจากเหตุการณ์ล่าสุดนี้ ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจทำให้นักท่องเที่ยวชะลอที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง ด้วยเหตุนี้ GC จึงขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคัก และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ และชาวบ้านจังหวัดระยองมีรายได้ GC จึงได้ร่วมมือกับเมืองไทยประกันชีวิต จัดทำโครงการพักระยองอุ่นใจ รับฟรีความคุ้มครองโควิด-19 เพื่อสนับสนุนการทำประกันกลุ่มสุขภาพโควิด-19 สำหรับนักท่องเที่ยวพร้อมรับวันหยุดยาวในปลายเดือนกรกฎาคม 2563 GC ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและให้กำลังใจชาวระยอง เราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน”

นายสาระ  ล่ำซำ  กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บริษัท  เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL กล่าวว่า “บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ GC และเป็นส่วนหนึ่งในการมอบความอุ่นใจและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่จังหวัดระยอง รวมถึงเพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวในจังหวัดระยองอีกทางหนึ่ง   ด้วยการมอบความคุ้มครองพิเศษโควิด-19 ฟรี! ให้แก่นักท่องเที่ยวที่เข้าพักโรงแรมในจังหวัดระยอง และลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน LINE @Muangthailife ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม - 31 สิงหาคม 2563 รับความคุ้มครองกรณีที่ผู้เอาประกันภัย ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล รับความคุ้มครองเป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท พร้อมความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจำนวนเงิน 50,000 บาท (ทุกกรณียกเว้นการฆ่าตัวตายหรือการถูกฆาตกรรมโดยผู้รับผลประโยชน์)  อายุรับประกันตั้งแต่ 0-70 ปี ระยะเวลาความคุ้มครอง 30 วันนับตั้งแต่วันที่เริ่มเข้าพักในโรงแรมวันแรก  ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัยต้องไม่มีประวัติการเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไทย   14 วันก่อนวันเริ่มต้นความคุ้มครอง สิทธิ์มีจำนวนจำกัด สำหรับ 50,000 ท่านแรกที่ลงทะเบียนและเข้าพักที่โรงแรมเท่านั้น”

สำหรับขั้นตอนการลงทะเบียนทำได้ง่ายๆ เพียงลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่าน LINE  @Muangthailife  กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และกดยืนยัน  จากนั้นรับข้อความยืนยันการได้รับความคุ้มครอง  ผู้ที่สนใจต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 1766 หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.muangthai.co.th

 

 

 

 

 


Tags : GC เมืองไทยประกันชีวิต สาระ ล่ำซำ คุ้มครองโควิด-19 โครงการพักระยองอุ่นใจ


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า SAM ได้คัดสรรทรัพย์มือสองหรือทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในส่วนของทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยบนทำเลดีทั่วประเทศ พร้อมปรับลดราคาพิเศษ จำนวน 18 รายการ มูลค่ารวม 60 ลบ.ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า เพื่อให้ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลได้ในวันที่ 7 ม.ค. 2568 ทั้งนี้ ยังได้จัดโปรโมชัน “SAM ทรัพย์มือสองต้องบอกต่อ” เพียงแนะนำทรัพย์ SAM ให้กับเพื่อนหรือคนรู้จัก รับค่าแนะนำสูงสุดถึง 3 ล้านบาทต่อ 1 รายการ (เฉพาะทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข) และ SAM ยังร่วมกับธนาคารชั้นนำ ทั้งธนาคารกรุงเทพ ธนาคารยูโอบี ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ตัวอย่างทรัพย์เด่นราคาพิเศษ 1.ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เนื้อที่ 27.7 ตร.ว. โครงการบ้านธรรมชาติ ถ.เพชรเกษม (ทล.4) แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ ทรัพย์ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย ใกล้โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า โรงพยาบาลบุญญาเวช ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เพชรเกษม 1 ห้างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เพชรเกษม และห้างโฮมโปร เพชรเกษม ราคาเริ่มต้น 3 ลบ. 2.อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น มีชั้นลอย เนื้อที่ 25.3 ตร.ว. ถ.ติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทรัพย์ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรม การคมนาคมสะดวก สาธารณูปโภคครบครัน ใกล้โรงเรียนพระหฤทัยนนทบุรี โรงเรียนอนุบาลปาลินา ติวานนท์ และห้างโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ศรีสมาน จากราคา 6.3 ลบ.  ปรับลดลงมาประมาณ 6.7% เหลือราคาพิเศษเริ่มต้น 5.9 ลบ. 3.อาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 3 ห้องนอน 2 นอน เนื้อที่ 39.6 ตร.ว. ถ.เทศบาลบำรุง ต.ท้ายช้าง อ.เมืองพังงา จ.พังงา ทรัพย์ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรม ใกล้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาพังงา สหกรณ์ออมทรัพย์ครูพังงา สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดพังงา จากราคา 4.78 ลบ. ปรับลดลงมาประมาณ 12% เหลือราคาพิเศษเริ่มต้น 4.23 ลบ. 4.อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เนื้อที่ 24.3 ตร.ว. จากราคา 8.33 ลบ. ปรับลดลงมาประมาณ  9% เหลือราคาพิเศษเริ่มต้น 7.64 ลบ. และอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น เนื้อที่ 20 ตร.ว.  จากราคา 8.5 ลบ. ปรับลดลงมาประมาณ 7.8% เหลือราคาพิเศษเริ่มต้น 7.88 ลบ. ทั้งสองทรัพย์ตั้งอยู่ในโครงการทรัพย์แสนล้าน ถ.ราชปาทานุสรณ์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต  ใกล้สำนักงานเทศบาลเมืองป่าตอง โรงเรียนเทศบาลเมืองป่าตอง โรงพยาบาลป่าตอง สถานีตำรวจภูธรกระทู้  ห่างจากชายหาดป่าตองเพียง 2 กม. เท่านั้น การจัดประมูลครั้งนี้มีทรัพย์เด่นที่น่าสนใจในทำเลทั่วประเทศอีกหลายรายการ ผู้สนใจเข้าร่วมประมูล ลงทะเบียนและยื่นซองประมูล พร้อมเอกสารประกอบการประมูล ครั้งที่ 14 ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2567 และ กำหนดเปิดซองประมูลวันที่ 7 ม.ค. 2568 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ที่สำนักงานใหญ่ SAM อาคารซันทาวเวอร์ส ถ.วิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ  หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1443 / 02-686-1888 และดูรายละเอียดทรัพย์สินได้ทางเว็บไซต์ที่ www.sam.or.th  รวมทั้งช่องทางออนไลน์ที่หลากหลายและสะดวกรวดเร็ว โดยแอด ID Line @Samline ติดตาม Facebook Fanpage ทรัพย์มือสองต้อง SAM หรือ SAM NPA Channel บน YouTube เพื่อติดตามข้อมูลข่าวสารดี ๆ จาก SAM

26 Dec 2024

...

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แจ้งเตือนกรณีที่มีลูกค้าได้รับเอกสารปลอมแอบอ้างชื่อและตราสัญลักษณ์ธนาคาร รวมถึงชื่อผู้จัดการ ธ.ก.ส. ส่งไปหลอกลวงลูกค้าประชาชนว่า ไม่สามารถโอนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าได้ เนื่องจากกรอกเลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง ทำให้บัญชีถูกอายัด พร้อมกับหลอกให้แก้ไขด้วยการโอนเงินล่วงหน้าไว้ในบัญชีตามจำนวนที่มิจฉาชีพกำหนด หรือให้สแกน QR CODE เพื่อทำการปลดล็อคระบบ จึงจะสามารถเบิกถอนเงินกู้ได้ หากไม่ทำตามจะมีโทษ อาทิ ติดแบล็คลิสต์ ถูกยึดทรัพย์ ปรับเงิน และจำคุกด้วยนั้น ธ.ก.ส. ขอเรียนว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารปลอม ซึ่ง ธ.ก.ส. ไม่ใช่ผู้จัดทำ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว จึงขอให้เกษตรกรลูกค้า ประชาชนทั่วไปอย่าหลงเชื่อ และอย่าให้ข้อมูลหรือทำตามที่มิจฉาชีพแจ้งโดยเด็ดขาด และยืนยันว่าธนาคารไม่มีนโยบายในการส่งเอกสารให้ลูกค้าดำเนินธุรกรรมในลักษณะนี้ ซึ่งธนาคารจะรวบรวมข้อมูลและดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอนทางกฎหมายกับมิจฉาชีพที่แอบอ้างธนาคารหลอกลวงลูกค้าต่อไป ทั้งนี้ หากลูกค้าได้รับเอกสารในลักษณะเดียวกันนี้ สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ BAAC ศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพ Call Center : 02 555 0555 กด 111 ได้ตลอด 24 ชม. หรือ สามารถใช้บริการทางการเงินที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยกับ ธ.ก.ส. ได้ที่แอปพลิเคชัน BAAC Mobile และติดตามข้อมูลและข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางการสื่อสารหลักของธนาคาร ได้แก่ เว็บไซต์ www.baac.or.th Facebook Page “ธกส BAAC Thailand” LINE Official: @baacfamily และ TikTok: @baacthailand     

25 Dec 2024

...

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3% ด้วยแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐ การลงทุน และการบริโภค ควบคู่กับความต้องการจากต่างประเทศในภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกซึ่งมีแนวโน้มขยายตัว เป็นผลจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่อเนื่อง  โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกปี 2568 จะขยายตัว 3.2% (เท่ากับปี 2567) และการค้าโลกปี 2568 จะขยายตัว 3.4% (สูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ราว 2.8%) ตลาดที่มีศักยภาพ ได้แก่ ตลาดเกิดใหม่ อาทิ อินเดีย CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) อาเซียน 5 ประเทศ และตะวันออกกลาง ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2568 สูงถึง 6.5%, 5.3%, 4.5% และ 3.8% ตามลำดับ ทำให้คาดว่าการส่งออกไทยปี 2568 จะขยายตัว 3% สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าเกษตรและอาหาร และสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น เครื่องสำอาง อาหารสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในตะวันออกกลางที่อาจส่งผลให้ค่าระวางและราคาน้ำมันผันผวน ความผันผวนของค่าเงิน และสงครามการค้ารอบใหม่ (Trade War 2.0) เป็นผลจากนโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ในปี 2568 EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง จะเป็นผู้นำผู้ประกอบการไทยรุกตลาดการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ  โดยส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในธุรกิจที่ไทยมีศักยภาพ สอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคในโลกการค้ายุคใหม่ ได้แก่ 1.สินค้าตอบโจทย์ความมั่นคงด้านอาหาร (Food for Security) ซึ่งประเทศไทยอยู่ในอันดับ 10 ของประเทศผู้ผลิตอาหารต่อคนมากที่สุดในโลก สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ ทูน่ากระป๋องและไก่แปรรูป น้ำตาลทราย และซาร์ดีนกระป๋อง 2.สินค้ารักษ์โลก (Good for Planet) สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ เม็ดพลาสติกชีวภาพ (Polylactic Acid : PLA) และแผงโซลาร์เซลล์ 3.สินค้าและบริการที่สร้างความสุขหรือประสบการณ์ใหม่ (Mood for Joy) สินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยง เครื่องประดับเงิน เครื่องสำอาง สบู่ และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นอกจากนี้ สินค้าที่มีโอกาสเติบโตในปี 2568 ได้แก่ สินค้าที่ได้รับผลดีจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้แก่ สินค้าเครื่องปรับอากาศและหม้อแปลงไฟฟ้าที่ไทยอาจสามารถกลับมาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้น หากสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆเพิ่มขึ้นตามที่ได้เคยประกาศนโยบายไว้   ดร.รักษ์ กล่าวว่า ในปี 2568 EXIM BANK จะเดินหน้าบทบาท Green Development Bank นำทัพผู้ประกอบการไทยขับเคลื่อนสังคมคาร์บอนต่ำและสร้างโลกที่ยั่งยืน มุ่งสู่เป้าหมายเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อสนับสนุนธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG) เป็น 40% ภายในปี 2568 พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ด้านวาณิชธนกิจ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ จัดหาเงินทุนสำหรับโครงการ รวมถึงค้ำประกันหุ้นกู้ (Bond Guarantee) แก่ผู้ประกอบธุรกิจที่คำนึงถึง ESG ขณะเดียวกัน EXIM BANK สนับสนุนธุรกิจส่งออกและการลงทุนที่ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน นำพาธุรกิจไทยทุกขนาดเข้าสู่ Green Export Supply Chain และมุ่งสู่เป้าหมายธนาคารด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2570 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2593 โดยสอดคล้องกับความต้องการของโลกในการสนับสนุนทางการเงินเพื่อจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Finance) ซึ่งประเมินว่าสูงถึง 8.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แต่ตัวเลข Climate Finance ปี 2565 มีอยู่เพียง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เท่ากับว่ายังขาดเม็ดเงินอีกมูลค่ามหาศาลในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว   ในการดำเนินบทบาท Green Development Bank ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2567 EXIM BANK มียอดสินเชื่อคงค้างและภาระผูกพัน 179,316 ล้านบาท และคาดว่าจะสูงกว่า 190,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2567 เพิ่มขึ้น 6.8% จาก 177,932 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2566 ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) คาดว่าจะอยู่ที่ 3.49% ลดลงถึง 1.2% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน เป็นผลจากการติดตามคุณภาพสินเชื่ออย่างใกล้ชิดของธนาคาร ทำให้คาดว่า ณ สิ้นปี 2567 EXIM BANK จะสามารถทำกำไรสุทธิได้สูงกว่า 1,000 ล้านบาท “ปี 2568 เป็นปีที่เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ที่ทำงานพร้อมกันทั้งจากอุปสงค์ภายในและภายนอกประเทศ ขณะที่โอกาสของธุรกิจไทยยังมีอยู่อีกมากในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจที่สามารถพัฒนาสินค้าหรือบริการตอบโจทย์เทรนด์ของตลาดโลกได้ EXIM BANK จึงเร่งเดินหน้าขับเคลื่อนการส่งออก ด้วยนวัตกรรมทางการเงินที่จะช่วยเสริมหรือติดอาวุธให้ผู้ประกอบการแข่งขันได้มากขึ้นในเวทีโลก นำพาธุรกิจไทยสู่ความยั่งยืน ท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดการค้าโลกปัจจุบัน”  ดร.รักษ์ กล่าว  

20 Dec 2024

...

รายงานข่าวจากธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ในโอกาสส่งท้ายปี 2567 ธนาคารเตรียมโปรโมชันพิเศษเข้าร่วมงาน Thailand Smart Money Bangkok 2024 จัดโดยนิตยสารดอกเบี้ย และ Money Expo 2024 Bangkok Year-End จัดโดยวารสารการเงินธนาคาร ซึ่งเป็นโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าและผู้เข้าร่วม 2 งานนี้เท่านั้น ทั้งเงินฝาก สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเคหะ และสินเชื่อธุรกิจ โดยไฮไลท์ คือ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 111 วัน ดอกเบี้ยแบบ Step up สูงสุด 21% ต่อปี หรือเทียบเท่าเงินฝากประจำ 4.70% ต่อปี เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ฝากได้สูงสุด 500,000 บาทต่อราย จองสิทธิ์ภายในงานเท่านั้น จำนวนจำกัด วันละ 200 สิทธิ์ และ 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษ 5 เดือน อัตราดอกเบี้ย 1.65% ต่อปี หรือเทียบเท่าเงินฝากประจำ 1.94% ต่อปี เปิดบัญชีขั้นต่ำ 10,000 บาท ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด ฝากได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล นอกจากนี้ยังมีรางวัลใหญ่ส่งท้ายปี รับสิทธิ์ลุ้นรางวัลพิเศษ มูลค่า 40 ล้านบาท จำนวน 1 ครั้ง และลุ้นรับรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ รวม 12 ครั้ง สำหรับผู้ฝากสลากออมสินพิเศษ 1 ปี ทั้งแบบใบสลากและสลากดิจิทัล งวดประจำวันที่ 16 มกราคม 2568 เริ่มฝากตั้งแต่วันนี้ ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และแอป MyMo สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อเคหะ ประกอบด้วย สินเชื่อบ้านออมสินสบายใจ สำหรับซื้อและปลูกสร้าง วงเงินกู้สินเชื่อตั้งแต่ 3 – 7 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 1.89% ต่อปี เฉลี่ย 3 ปี เท่ากับ 2.89% ต่อปี นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการกู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัย สามารถขอกู้ สินเชื่อ Top-Up สบายใจ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก 3.49% ต่อปี โดยทั้ง 2 สินเชื่อ สามารถเลือกผ่อนชำระแบบผ่อนต่ำ ปีที่ 1 ล้านละ 4,000 บาท/เดือน ปีที่ 2 ล้านละ 5,000 บาท/เดือน ปีที่ 3 ล้านละ 6,000 บาท/เดือน โดยสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 และจัดทำนิติกรรมสัญญา ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568  ส่วนผู้ประกอบการธุรกิจ ธนาคารได้จัด สินเชื่อ GSB D-Vers เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน ลงทุนในสินทรัพย์ถาวร และรีไฟแนนซ์ วงเงินกู้สูงสุด 100 ล้านบาท สำหรับวงเงินกู้ตั้งแต่ 1 - 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรก เท่ากับ 6.662% กรณีทำประกันฯ และใช้หลักทรัพย์ค้ำเต็มวงเงิน รวมถึงครั้งแรกกับการเปิดตัว สินเชื่อบุคคลผ่านแอปพลิเคชัน GOOD MONEY - เงินดีดีเพื่อคนไทย แพลตฟอร์มสินเชื่อเพื่อความเท่าเทียมในสังคมภายในงาน โดยบริษัท เงินดีดี จำกัด อีกหนึ่งพันธมิตรของธนาคาร ให้บริการสินเชื่อรายย่อย 2 ประเภท ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) และ Nano Finance สำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม พบขบวนทัพบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการแบบครบวงจร พร้อมโปรโมชันพิเศษทั้งเงินฝากและสินเชื่อ รวมถึงบริการให้คำปรึกษาทางการเงินของธนาคารออมสิน ในงาน เทศกาลการเงิน-การลงทุน "Thailand Smart Money Bangkok 2024" ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 13 -15 ธันวาคม 2567 ณ บีซีซี ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว และ งานมหกรรมทางการเงินกรุงเทพ Money Expo Bangkok Year-End 2024 ระหว่างวันที่ 19 - 22 ธันวาคม 2567 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  

14 Dec 2024

Banner
เอไอเอ ประเทศไทย ส่งแคมเปญ “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊ปเดียว” ให้คนไทยอุ่นใจหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ด้วยความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่ทุกคนเลือกได้ เอไอเอ ประเทศไทย ผู้นำในตลาดประกันชีวิต สุขภาพ และโรคร้ายแรง ส่งแคมเปญ “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊บเดียว” โดยมาจากความเข้าใจในความต้องการและความรู้สึกของลูกค้าในเวลาที่ตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแบบไม่คาดคิด  ซึ่งมาพร้อมกับความ “ตกใจ” และ “กังวลใจ” ถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และภาระต่าง ๆ ที่ตามมา รวมถึงอนาคตของคนในครอบครัว เพราะปัจจุบันการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรงมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เนื่องมาจากเทคโนโลยีทางการแพทย์ และความซับซ้อนของโรค เอไอเอ จึงมุ่งสนับสนุนให้ทุกคนตระหนักถึงความจำเป็นของการมีความคุ้มครองโรคร้ายแรงที่เพียงพอและเหมาะสม เพื่อให้ชีวิตของทุกคนยังคงดำเนินต่อไปได้แบบไม่สะดุด พร้อมส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ นอกจากนี้ เอไอเอ ยังได้เปิดตัวหนังโฆษณา “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊บเดียว” ผ่านสตอรี่สุดฉีก จับโมเมนต์ร้อง ห๊ะ!!! ในวินาทีแรกเมื่อเจอโรคร้าย เผยความกังวลสุดฮิตให้พรั่งพรู ก่อนรีบคัทฟีลให้คุณสบายใจ…เพื่อบอกคนไทยว่า ความ “ตกใจ” เหล่านั้นจะอยู่กับคุณแค่ “แป๊บเดียว” หากมีประกันโรคร้ายแรงเอไอเอไว้ก่อน โดยสามารถรับชมหนังโฆษณาได้แล้ววันนี้ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งทีวี โรงภาพยนต์ และออนไลน์ของเอไอเอ ประเทศไทย ทั้ง AIA Official Facebook Page, AIA Thailand YouTube Channel และ Line Official Account สามารถคลิกลิงก์ https://youtu.be/mhxIKdZ5ECY เพื่อรับชม พิเศษยิ่งกว่าสำหรับแคมเปญ “เจอโรคร้าย ตกใจแค่แป๊บเดียว” ยังมีโปรโมชันและสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่สนใจซื้อประกันโรคร้ายแรงตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567  โดยเอไอเอ ได้รวมแพ็กประกันโรคร้ายแรงตัวท็อป ถึง 10 แผนมาให้ลูกค้าได้เลือกให้ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับค่าใช้จ่ายที่จำเป็น อาทิ ‘AIA CI Plus ประกันโรคร้ายแรง เจอ-จ่าย-จบ’ ที่ให้เงินก้อนไว้ใช้รักษา ‘AIA Multi-Pay CI Plus ประกันโรคร้ายแรง เจอ-จาย-หลายจบ’ ที่ให้เคลมได้รวมสูงสุดถึง 11 ครั้ง และ ‘AIA Care For Cancer ประกันชดเชยรายได้’ สำหรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทั้งนี้ ลูกค้ายังมีสิทธิพิเศษมากมาย เมื่อเข้าร่วมแคมเปญ ต่อที่หนึ่ง รับฟรีกระเป๋า AIA X ARTSTORY By Autistic Thai มูลค่า 250 บาท เมื่อมีเบี้ยประกันภัยรวมต่อปีขั้นต่ำ 25,000 บาท* และต่อที่สอง รับเพิ่มบัตรของขวัญ Lotus’s มูลค่า 1,000 บาท เมื่อมีเบี้ยประกันภัยรวมต่อปีขั้นต่ำ 55,000 บาท* และพิเศษถ้าซื้อประกันสุขภาพที่ร่วมโครงการฯ รับเพิ่มบัตรของขวัญ Lotus’s มูลค่าสูงสุด 1,000 บาทอีกด้วย เมื่อมีเบี้ยประกันภัยรวมขั้นต่ำ 25,000 บาท* ซึ่งทุกคนสามารถเข้าร่วมแคมเปญได้ง่าย ๆ เพียงลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และซื้อประกันโรคร้ายแรงที่เข้าร่วมแคมเปญ** ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2567 โดยสามารถศึกษารายละเอียดแคมเปญได้ที่เว็บไซต์ https://www.aia.co.th/th/events-promotions/promotions-rewards/dmtquarterly สนใจสามารถติดต่อตัวแทนเอไอเอ หรือ AIA Call Center 1581
อ่านต่อ...
Banner Banner Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner