Responsive image

Monday, 31 Mar 2025

หน้าแรก > INSURANCE/ประกันภัย-ประกันชีวิต


ปลื้ม..เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 2 รางวัลใหญ่ Influential Brands 2024 -TOP CEOs และ Top Influential Brands Award 2024 ต่อเนื่องปีที่ 4

Sat 29/03/2568


เมืองไทยประกันชีวิต  ประกาศความภูมิใจ ด้วยการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติ Influential Brands 2024 ประเภท รางวัล TOP CEOs ต่อเนื่องปีที่ 4 และรางวัล Top Influential Brands Award 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งยกย่องผู้นำองค์กรที่ทรงอิทธิพลและมีวิสัยทัศน์โดดเด่นในระดับภูมิภาค ตอกย้ำความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคและความเป็นองค์กรที่มีอิทธิพลทางการตลาดสูงสุด

 

สำหรับในปีนี้  รางวัล Influential Brands 2024 TOP CEO และ Top Influential Brands Award 2024 จากงาน 2024 Asia CEO Summit & Award Ceremony เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเป็นผู้นำทางธุรกิจที่มีอิทธิพลและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมอย่างแท้จริง นับเป็นเกียรติอันทรงคุณค่าที่สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างนวัตกรรมและคุณค่าให้กับผู้บริโภคและสังคมโดยรวม รางวัลนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่มาตรฐานระดับสากล ตอกย้ำบทบาทของผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และศักยภาพในการนำพาธุรกิจให้ก้าวสู่อนาคต

รางวัล Influential Brands 2024 -TOP CEOs (Thailand)  ซึ่งในปีนี้  นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต  ได้รับรางวัลอย่างต่อเนื่องปีที่ 4  ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้นำหรือผู้บริหารองค์กรที่มีผลงานโดดเด่นและมีอิทธิพลต่อองค์กรและอุตสาหกรรมในประเทศไทย สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตได้อย่างมั่นคงในยุคดิจิทัล มีแนวคิดทันสมัยพร้อมปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจตลอดจนส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง โดยการพิจารณารางวัลจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น วิสัยทัศน์ ความเป็นผู้นำ ผลงาน และการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม 

และรางวัล  Top Influential Brands Award 2024 (Category: Life Insurance Company)   ที่มอบให้กับ เมืองไทยประกันชีวิต  ในปีนี้ต่อเนื่องปีที่ 4 เช่นเดียวกัน   โดยรางวัลนี้มอบให้กับบริษัทประกันชีวิตที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคในประเทศไทย  การพิจารณารางวัลจะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ ความพึงพอใจของผู้บริโภค คุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ และการสร้างแบรนด์   ซึ่งเมืองไทยประกันชีวิตได้รับการยอมรับว่าเป็นองค์กรที่มีความสามารถในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การตลาดที่เข้าถึงผู้บริโภคยุคใหม่ผ่านนวัตกรรมและบริการที่ทันสมัย นอกจากนี้ องค์กรยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบบยั่งยืน (Sustainability) และการบริหารจัดการที่มีความโปร่งใส นำโดยผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวสู่อนาคตได้อย่างมั่นคง

การที่บริษัทและผู้นำองค์กรได้รับรางวัล Influential Brands แสดงถึงสิ่งสำคัญหลายประการขององค์กร  ทั้งด้านความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจของลูกค้าและประชาชนทั่วไป  เป็นเครื่องยืนยันถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ในสายตาของผู้บริโภค แสดงว่าองค์กรได้รับการยอมรับและไว้วางใจจากผู้บริโภคในตลาด   สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือในความเป็นผู้นำและความสามารถในการนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จ   ด้านความเป็นผู้นำในธุรกิจ บริษัทสามารถสร้างความแตกต่างและมีบทบาทสำคัญในธุรกิจประกันชีวิตอย่างชัดเจน  ด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ  เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการที่องค์กรนำเสนอ แสดงว่าองค์กรให้ความสำคัญกับการตอบสนองความต้องการและความพึงพอใจของผู้บริโภค  ด้านการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง  เป็นที่จดจำในตลาด แสดงว่าองค์กรมีการสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภค  

เหตุผลที่บริษัทและผู้นำองค์กรได้รับรางวัล Influential Brands นั้นมาจากปัจจัยหลายประการ อาทิ คะแนนจากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และกลุ่มผู้บริโภคในทุกช่วงวัย ซึ่งการที่บริษัท ได้รับรางวัลแสดงให้เห็นว่าสินค้าและบริการได้รับความนิยมและความไว้วางใจจากผู้บริโภคอย่างแท้จริง   คะแนนด้านความเป็นผู้นำและการสร้างความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะรางวัล Top CEOs นั้น แสดงให้เห็นว่าผู้นำองค์กรมีบทบาทสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับองค์กร มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และสามารถนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จได้   คะแนนด้านคุณภาพของสินค้าและบริการ การที่บริษัทได้รับรางวัลแสดงว่าสินค้าและบริการของบริษัทนั้นมีคุณภาพที่ดี ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี    คะแนนด้านการการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นที่จดจำของผู้บริโภค มีการสื่อสารและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภค   คะแนนด้านการสร้างความโดดเด่นในธุรกิจ ที่บริษัทสามารถสร้างความแตกต่างและมีบทบาทสำคัญในธุรกิจประกันภัย

การได้รับรางวัล Influential Brands 2024 ไม่เพียงเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของบริษัทฯ แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เมืองไทยประกันชีวิตมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่ทุกคนในสังคมตามแนวคิด "Happiness Means Everything"

รางวัล Influential Brands 2024 TOP CEOs (Thailand) และ 2024 Thailand's Top Influential Brands นั้น มีเงื่อนไขการพิจารณาการได้รับรางวัล จากการสำรวจและวิจัยข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคในประเทศไทย   มีการประเมินผลจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ  การพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความน่าเชื่อถือ ความพึงพอใจของผู้บริโภค คุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ และการสร้างแบรนด์  โดยบริษัท อินฟลูเอ็นเชี่ยล แบรนด์ ประเทศสิงคโปร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและสำรวจข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคในเอเชีย และบริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด ที่ปรึกษาด้านการสื่อสารแบรนด์และภาพลักษณ์องค์กร เป็นผู้จัดงานมอบรางวัล.  

 


Tags : เมืองไทยประกันชีวิต รับรางวัล คว้ารางวัล สาระ ล่ำซำ


Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner

...

ตามที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ในประเทศพม่านั้น ในเหตุการณ์ครั้งนี้ มี “อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่” (อาคาร สตง.) ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างได้ถล่มลงมาทั้งหลัง โดยโครงการก่อสร้างดังกล่าว ได้มีการทำประกันภัยไว้กับบริษัทผู้รับประกันภัยร่วมจำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บมจ. ทิพยประกันภัย สัดส่วน 40% บมจ. กรุงเทพประกันภัย 25%  บมจ.อินทรประกันภัย 25%  บมจ.วิริยะประกันภัย 10% โดยมีทุนประกันภัยเป็น 3 หมวด ดังนี้ 1) มูลค่างานก่อสร้างตามสัญญา 2,136 ล้านบาท 2) ทรัพย์สินเดิมของผู้ว่าจ้าง 5 ล้านบาท 3) ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก 30 ล้านบาทต่อครั้ง และ 100 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย โดยมีเงื่อนไขความรับผิดส่วนแรกที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเอง 20% ของความเสียหายสำหรับแต่ละเหตุการณ์ ซึ่งในส่วน 40% ของทิพยประกันภัยนั้น บริษัทฯ ได้มีการจัดทำประกันภัยต่อไว้ในสัดส่วน 95% ของทุนเอาประกันภัยไว้กับบริษัทประกันภัยต่อชั้นนำของโลกที่มีระดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Credit Rating) ไม่ต่ำกว่า A นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดทำสัญญาประกันภัยต่อเพื่อความเสียหายส่วนเกินสำหรับความเสียหายจากภัยพิบัติหรือมหันตภัย (XOL) ไว้อีกด้วย ดังนั้น ทิพยประกันภัยยืนยันว่า แม้จะมีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนในกรณีนี้ บริษัทฯ ยังคงมีความมั่นคงทางการเงิน และไม่มีผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ อนึ่งในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในกรณีอาคาร สตง. นั้น จะต้องพิจารณาถึงมูลค่าของอาคาร ณ เวลาที่เกิดเหตุ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีการพิจารณาว่าอาคารดังกล่าว ได้มีการดำเนินการก่อสร้างไปแล้วเป็นร้อยละเท่าไรของมูลค่าโครงการทั้งหมด เช่น หากการก่อสร้างแล้วเสร็จ 50% ความเสียหายที่จะได้รับความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยก็จะเป็นเพียง 50% ของทุนเอาประกันภัยเท่านั้น ทั้งนี้ มูลค่าของโครงการนี้ ณ วันเวลาที่เกิดเหตุจะถูกประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญต่อไป นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการจัดเตรียมทีมงานและความพร้อมในการรับแจ้งเคลมตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเพื่อตอบข้อซักถาม และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยพร้อมที่จะพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็ว ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบสามารถติดต่อแจ้งเคลมและขอรับความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าของทิพยประกันภัย โทร. 1736 กด 5199 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ Line : dhipayainsurance  หรือ อีเมล : general-claim@dhipaya.co.th    ทิพยประกันภัย มุ่งมั่นในการให้บริการที่เป็นเลิศ และจะเดินหน้าดูแลลูกค้าทุกท่านด้วยความรับผิดชอบ โปร่งใส และเป็นธรรม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดและความมั่นใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องต่อไป  

31 Mar 2025

...

  นายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน สำนักงาน คปภ. ร่วมกับ สมาคมประกันชีวิต และสมาคมประกันวินาศภัย เร่งติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้บริษัทประกันภัยเตรียมพร้อมดำเนินการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ขอแสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอให้ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวตรวจสอบกรมธรรม์ของตนเอง หรือติดต่อบริษัทประกันภัยที่ได้ทำประกันภัยไว้ และขอย้ำว่าทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพร้อมดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งฟื้นฟูความเสียหายให้กลับคืนโดยเร็ว ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ ช่องทาง Chatbot @oicconnect

30 Mar 2025

...

เนื่องในวาระก้าวสู่ปีที่ 113 วันที่ 1 เมษายน 2568 ธนาคารออมสินเตรียมมอบกระปุกออมสิน “อาชีพพลิกฝัน” เป็นของที่ระลึกสำหรับผู้ฝากเงิน ซึ่งมีแรงบันดาลใจการออกแบบลวดลายเป็นภาพอาชีพที่คุ้นเคยเพื่อจุดพลังและสนับสนุนให้ทุกอาชีพเติบโตไปด้วยกันอย่างมั่นคง นำเสนอในรูปแบบการ์ตูนสีสันสดใส พร้อมลูกเล่นหมุนเปลี่ยนอาชีพได้ เพื่อให้ทุกการออมสนุกยิ่งขึ้น   โดยร่วมพัฒนาและออกแบบลวดลายโดยศิลปินจากโครงการ อาร์ต ฟอร์ แคนเซอร์ บาย ไอรีล (Art for Cancer by Ireal) กิจการเพื่อสังคม เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจการเป็นธนาคารเพื่อสังคม ในการดำเนินธุรกิจอย่างสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าร่วม ตลอดจนขยายผลสร้างประโยชน์ให้กับผู้คนและสังคม ผู้ที่รักการออมเงินและการสะสมกระปุกออมสิน   เตรียมลงทะเบียนจองสิทธิ์ฝากเงินและรับกระปุกออมสิน “อาชีพพลิกฝัน” ได้ตั้งแต่วันที่ 28 – 31 มีนาคม 2568 ผ่าน 3 ช่องทางออนไลน์ ได้แก่ เว็บไซต์ www.gsb.or.th, Line Official : GSB Society และแอปพลิเคชัน MyMo และฝากเงิน 500 บาทขึ้นไป ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา แอป MyMo และเครื่องรับฝากเงินอัตโนมัติ พร้อมรับกระปุกออมสินตามสาขาที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ตั้งแต่วันที่ 1 -  4 เมษายน 2568 (1 กระปุกต่อ 1 ท่าน) ของมีจำนวนจำกัด ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.gsb.or.th หรือ GSB Contact Center โทร. 1115  

29 Mar 2025

...

ไทยประกันชีวิตชูแนวคิด People Centric มุ่งพัฒนาบุคลากรให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดี ส่งเสริมแนวคิดการเรียนรู้ไม่รู้จบ (Lifelong Learning) ผ่านโครงการ “School of Get” เน้นการเรียนรู้แบบ Feel Good Experience เพื่อพัฒนาศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการทำงานและการใช้ชีวิต     นายไชย ไชยวรรณ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งความยั่งยืนที่ส่งมอบคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ทั้งลูกค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น คู่ค้าพันธมิตร หน่วยงานกำกับดูแล และคนในสังคม ไทยประกันชีวิตจึงให้ความสำคัญกับการริเริ่มนวัตกรรมด้านต่างๆ ที่สร้างและส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่า และตรงความต้องการของแต่ละภาคส่วนอย่างแท้จริง ขณะเดียวกัน ไทยประกันชีวิตยังให้ความสำคัญกับบุคลากร ซึ่งถือเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวสู่ความยั่งยืน บริษัทฯ จึงดำเนินธุรกิจในลักษณะ People Centric มุ่งพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดี รวมถึงปรับทัศนคติให้พร้อมเรียนรู้ ให้เท่าทันกระแสการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยการเสริมสร้างทักษะความรู้เดิม (Upskill) และเพิ่มเติมทักษะใหม่ (Reskill) ที่จำเป็นสำหรับการทำงาน โดยการพัฒนาความรู้และวิธีการทำงานผ่านกระบวนการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ และให้ความสำคัญกับการสร้าง Mindset การเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างไม่สิ้นสุด (Lifelong Learning) ให้กับบุคลากร “บริษัทฯ จึงได้ริเริ่มโครงการ School of Get สำหรับผู้บริหารสำนักงานใหญ่และผู้บริหารฝ่ายขาย ด้วยแนวคิด Lifelong Learning เสริมทักษะแห่งอนาคต สร้าง Mindset แห่งการเรียนรู้ เพื่อก้าวสู่ความเป็นผู้นำยุคใหม่ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์แบบ One Team ให้บุคลากรพร้อมขับเคลื่อนองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ เราต้องการสร้างผู้นำที่กล้าคิด กล้าตัดสินใจลงมือทำ พร้อมเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ เพื่อวางรากฐานสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนของไทยประกันชีวิต” นายไชยกล่าว School of Get คือ โครงการพัฒนาศักยภาพบุคลากรรูปแบบใหม่ ที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้แบบ Feel Good Experience เน้นการพัฒนาศักยภาพในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อให้มีความสุขในการทำงานและการใช้ชีวิต ผ่านหลักสูตรที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เน้นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ พร้อมกิจกรรมเสริมทักษะที่จะช่วยพัฒนาผู้เรียนในมิติต่างๆ อย่างครบถ้วน “ทุกวิชาในหลักสูตรของ School of Get จะได้รับการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญและกูรูระดับประเทศ ในรูปแบบ "Edutainment" ที่ผสมผสานการเรียนรู้และความบันเทิงเข้าด้วยกัน เน้นการลงมือปฏิบัติ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างผู้เรียน เพื่อให้บุคลากรในหลักสูตรทุกท่านได้รับประสบการณ์แบบ Feel Good เพราะเราเชื่อว่า ‘ชีวิตคือการเรียนรู้ที่ไม่มีวันจบ และการเรียนรู้ที่เห็นผลที่สุด คือการเรียนรู้ที่ทำให้เรามีความสุข’ นายไชยกล่าว โครงการ School of Get รุ่นที่ 1 จัดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคม 2567 – เดือนมีนาคม 2568 ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรมสามารถนำทักษะความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมาเสริมสร้างศักยภาพในการทำงาน และเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองและองค์กรสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จได้อย่างดี

29 Mar 2025

Banner Banner Banner Banner Banner

Banner
  ทิศทาง ceothailand.net ในปี 2567  “สื่อออนไลน์ CEO THAILAND”   ในปี 2567 จะเป็นปีที่ผม “นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์” จะมาทำหน้าที่บรรณาธิการบริหารสื่อ CEO THAILAND และผู้บริหารสื่อออนไลน์ ceothailand.net อย่างเต็มที่ หลังจากที่ผ่านมาได้ไปเดินแผนงานทางด้านการเมือง แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงการเลือกตั้งไปแล้วที่ผ่านมา จึงทำให้ช่วงเวลานี้มีเวลาที่จะมาวางแผนในการเดินหน้าธุรกิจสื่อได้มากขึ้น และในช่วงระยะเวลา 1-2 ปีนับจากนี้ จึงขอเข้ามารับหน้าที่สื่อมวลชน ในการเขียนบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องราวในแวดวงเศรษฐกิจ-การเงิน และการประกันภัย ในฐานะของคอลัมนิสต์ ตลอดเวลาที่ผมเข้าไปทำงานทางการเมือง ต้องยอมรับว่าวงการข่าวและสื่อสารมวลชนเปลี่ยนไปเร็ว ตลอดเวลา 5 ปี  สื่อออนไลน์ที่รวดเร็วเข้ามาแทนที่สื่อหลักอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ (ออฟไลน์)  เราต้องยอมรับในเรื่องความรวดเร็ว แต่ต้องไม่ลืมจุดด้อยของสื่อออนไลน์ คือข้อผิดพลาดในการกลั่นกรองข่าวสาร รวมทั้งบทวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ที่หายไป และข่าวที่ออกมามีความเหมือนกัน  ไม่แตกต่าง และเป็นเชิงภาพข่าว และกิจกรรมเท่านั้น ดังนั้นในปี 2567 นี้  ในหน้าสื่อออนไลน์ CEO THAILAND ท่านผู้อ่านจะได้สัมผัสกับข่าวสารเชิงวิเคราะห์ เจาะลึกแบบออนไลน์ต่อเนื่องในสื่อ CEO THAILAND รวมทั้งการจัดทำเป็น E-Magazine ใน www.ceothailand.net รวมทั้งการจัดทำเป็นรูปเล่มฉบับพิเศษสลับไปบ้างในเรื่องที่สำคัญๆ น่าสนใจ และเป็นประโยชน์กับประชาชนและสังคม ขอขอบพระคุณท่านลูกค้าและผู้สนับสนุนสื่อด้วยดีเสมอมา ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา และขอขอบพระคุณทุกท่าน รวมทั้งผู้อ่านที่ติดตามสื่อ CEO THAILAND ด้วยดีเสมอมาใน www.ceothailand.net   นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ (เอก-วรา) บรรณาธิการบริหาร สื่อ CEO THAILAND  
อ่านต่อ...
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner
Banner